ปั๋ว เหมา รองศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน และเป็นอาจารย์รับเชิญประจำมหาวิทยาลัยเท็กซัสตั้งแต่ปีที่แล้ว ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมาในรัฐนิวยอร์ก และถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนได้รับการประกันตัวในอีก 6 วันต่อมา ด้วยวงเงิน 1 แสนดอลลาร์ หรือราว 3 ล้านบาท เบื้องต้นเขายังคงให้การปฏิเสธ
สำหรับพฤติกรรมของนักวิชาการรายนี้ เอกสารประกอบคำฟ้องระบุว่า นายเหมาได้ขโมยเทคโนโลยีจากบริษัทสตาร์ทอัพเจ้าหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยการตกลงให้บริษัทดังกล่าวยินยอมมอบแผงวงจรเพื่อการศึกษาวิจัย
แต่ในความเป็นจริง นายเหมาได้เอานวัตกรรมดังกล่าวไปให้กับบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ที่แหล่งข่าวยืนยันว่าคือ บริษัทหัวเว่ย
ก่อนหน้านี้นายเหมาเคยมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีเมื่อปี 2560 ที่หัวเว่ยยื่นฟ้องบริษัทสตาร์ทอัพของสหรัฐฯ ที่มีชื่อว่า "ซีเน็กซ์" และอดีตพนักงานคนหนึ่งในรัฐเท็กซัส ฐานขโมยความลับการค้า
ซึ่งซีเน็กซ์แย้งว่า ฝ่ายนายเหมาต่างหากที่ขโมยเทคโนโลยีไปให้กับหัวเว่ย ท้ายที่สุด คดีนี้จบลงด้วยการที่ซีเน็กซ์ไม่มีความผิด และหัวเว่ยไม่ได้รับความเสียหาย จึงไม่ต้องชดใช้ใดใด ในขณะที่หัวเว่ยนำความลับของซีเน็กซ์ไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
แม้หัวเว่ยไม่ได้ถูกตั้งข้อหาโดยตรง แต่ล่าสุดหัวเว่ยออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า คดีของนายเหมาคือตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจเลือกปฏิบัติของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยอัยการกลางของสหรัฐฯ เลือกที่จะดำเนินคดีที่เป็นประโยชน์ต่อซีเน็กซ์ แต่กลับไม่สนใจดำเนินคดีที่ซีเน็กซ์ทำให้หัวเว่ยเสียหาย
นอกจากนี้ทางการสหรัฐฯ ยังจับกุม นายเหมาทั้งที่ซีเน็กซ์ไม่เคยฟ้องร้องเขาโดยตรง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นคดีล่าสุดที่มีความเกี่ยวข้องกับหัวเว่ยในสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ศาลได้ตัดสินให้หัวเว่ยมีความผิดฐานขโมยความลับการค้ามาจาก บริษัททีโมบายล์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่ในอเมริกา