รวบ 3 โจ๋เตะหน้าเหยื่อปล้นโทรศัพท์มือถือ

วันที่ 9 กันยายน พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์ดนัย วิมุกติบุตร รองผกก.สส.สน.ทองหล่อ และตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ทองหล่อ ร่วมกันจับกุมนายอนุวัต เล้าสุทธิพงศ์ อายุ 21 ปี ภูมิลำเนา จังหวัดกรุงเทพฯ ,นายวัช (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ภูมิลำเนา จ.อุบลราชธานี และนายนันทวัฒน์ ชัยศรีจันทร์ อายุ 23 ปี ภูมิลำเนา จ.อุดรธานี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น พีซีเอ็กซ์ ทะเบียน ทะเบียน 1 ขก 8948 จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 8 จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป เอฟ 11 โปร จำนวน 1 เครื่อง หมวกกันแบบน็อคเต็ม 2ใบ อาวุธมีดปลอกผลไม้ 1 เล่ม และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ 

โดยจับกุมนายอนุวัตได้ที่ บ้านเช่าเลขที่ 36/1 ชั้น 2 ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 5 แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ขณะที่ นางสาวสงกรานต์ ต้นตระกูลทรัพย์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเป็นผู้จัดการร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลม หลังเลิกงานเพื่อนได้ขับรถมาส่งใกล้บ้าน เวลาประมาณ 03.30 น. วันที่ 5 กันยายน 2562 ขณะที่ตนนั่งคุยโทรศัพท์ เพราะเป็นห่วงเพื่อนอยู่บริเวณหน้าโรงแรมเดอะมิกซ์ ซอยสุขุมวิท 22 แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะเตรียมหากุญแจเพื่อจะไขเข้าบ้านซึ่งอยู่ด้านหลังโรงแรม 

ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา 3 คน ไม่ทราบสี ยี่ห้อ และรุ่นของรถจักรยานยนต์ โดยหนึ่งในคนร้ายได้ลงจากรถมาทำร้ายเตะเข้าที่่ใบหน้า 1 ครั้ง ทำให้โทรศัพท์ตกไปด้านหน้า จากนั้นคนร้ายอีกคนได้ลงจากรถจักรยานยนต์ช่วยกันชิงเอาโทรศัพท์ไปจำนวน 2 เครื่อง ประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 8 จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป เอฟ 11 โปร จำนวน 1 เครื่อง แล้วหลบหนีไป ก่อนที่คนร้ายจะทำรถล้มและทำมีดหล่นไว้ ก่อนหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 4

นางสาวสงกรานต์ กล่าวต่อว่า บริเวณดังกล่าวที่ตนนั่งพูดคุยโทรศัพท์อยู่นั้นมีแสงสว่างเพียงพอ และมีกล้องวงจรปิด อาศัยอยู่ที่นี่มานาน 10 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น ประกอบกับอยู่ใกล้บ้าน แม้จะระวังตัวอยู่ แต่เนื่องจากพูดคุยโทรศัพท์ จึงอาจทำให้ระมัดระวังไม่เพียงพอ 

ทั้งนี้ฝากเตือนว่าแม้จะห่วงเพื่อนหรือมีธุระอะไรสำคัญอย่างไรก็ตาม ให้เข้าบ้านก่อนแล้วค่อยโทรหาเพื่อน เพราะตนไม่ระวังตัวเองประกอบกับคิดว่าบริเวณดังกล่าวมีแสงสว่างและมีกล้องวงจรปิดจึงคิดว่าปลอดภัยแล้วครึ่งหนึ่ง ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้น

ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบพบคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 3 คน โดยคนแรกสวมหมวกนิรภัยไม่ทราบสี คนที่สองสวมเสื้อคุมแขนยาวแบบมีฮู้ด และคนที่สามสวมเสื้อคุมแขนยาว ได้ ใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลังก่อเหตุพบกลุ่มคนร้ายขณะหลบหนีได้เกิดรถเสียหลักล้มลง จุดดังกล่าวตรวจสอบพบมีดพับตกอยู่ในที่เกิดเหตุและและพบรอยครูดสีแดงติดอยู่กับพื้นถนน 

จากนั้นได้สืบสวนจนทราบว่านายอนุวัต เป็นคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ของศาลอาญาออกหมายจับนายอนุวัตไว้ และสามารถจับกุมตัวนายอนุวัฒน์ได้ที่บริเวณบ้านเช่าได้ในพื้นที่สน.ดินแดง

.

นายอนุวัต ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายนันทวัฒน์ และนายวัชระเกียรติ ก่อเหตุดังกล่าวจริงเนื่องจากไม่มีงานทำและไม่มีเงินใช้ โดยก่อเหตุเป็นครั้งแรกขณะก่อเหตุไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมาสุราหรือยาเสพติด 

ทั้งนี้ได้ขับรถออกจากบ้านมาด้วยกันกับเพื่อน ก่อนจะเห็นผู้เสียหายนั่งพูดคุยโทรศัพท์อยู่ จากนั้นได้วนรถกลับมาก่อนจะสับเปลี่ยนมานั่งซ้อนท้ายรถและลงไปทำร้ายผู้เสียหายเพื่อต้องการทรัพย์สิน ก่อนจะนำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนไปประกาศขายผ่านโซเชียลได้ในราคา 10,000 บาท และถูกจับกุมได้ดังกล่าว 

นอกจากนี้ยอมรับว่าเป็นคนผู้เตะผู้เสียหาย เนื่องจากกลัวผู้เสียหายต่อสู้หรือขัดขืน ส่วนเงินที่ได้นำมาแบ่งกันคนละ 3,000 บาท นำไปใช้จ่ายส่วนตัวและเที่ยวเตร่เหลือ 1,000 บาท โดยตนเองนั้นเคยต้องคดีเสพกัญชา เมื่อปี 2559 โทษบำบัด อยากจะขอโทษผู้เสียหายกับการกระทำดังกล่าว

เบื้องต้นแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ และใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป