svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ไครโอนิกส์ แช่แข็งมนุษย์-โกงความตาย

08 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การแช่แข็งมนุษย์ หรือไครโอนิกส์ (Cryonics) การแช่แข็งมนุษย์รอวันคืนชีพ เทคโนโลยีแช่แข็งมนุษย์ที่ว่านี้จะมีความเป็นไปได้ไหม แล้วจะเกิดปาฏิหาริย์ชุบชีวิตคนตายได้จริงหรือเปล่า

ความเป็นมาของการแช่แข็งมนุษย์
เทคโนโลยีนี้ถือกำเนิดขึ้นด้วยมันสมองของศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอ็ตทิงเกอร์ นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน ผู้ริเริ่มการทดลองแช่แข็งสเปิร์มของกบ สเปิร์มของวัว และสเปิร์มมนุษย์มาก่อน จากนั้นจึงเริ่มทดลองแช่แข็งตัวอ่อนของหนู แพะ และกระต่ายเพื่อการรักษาเซลล์ในร่างกายจนประสบความสำเร็จมาแล้ว
ในที่สุดเขาจึงมีความคิดว่า เทคโนโลยีการแช่แข็งก็น่าจะช่วยรักษาสภาพร่างกายของมนุษย์ที่หมดลมหายใจไปแล้วได้เช่นกัน นี่จึงเป็นที่มาของไครโอนิกส์หรือเทคโนโลยีแช่แข็งมนุษย์เพื่อรอวันฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
James Bedford คือ มนุษย์คนแรกที่ถูกแช่แข็ง เขาป่วยเป็นมะเร็งไตและลุกลามไปที่ปอด เจมส์ บอกกับทุกคนก่อนตายว่า เขาต้องการแช่แข็งตัวเองไว้ เผื่อว่าสักวันหนึ่งจะมีวิธีการคืนชีพและรักษามะเร็งของเขาได้ เบดฟอร์ด เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มกราคม ปี 1962 ซึ่งกลายมาเป็นวันสำคัญของการแช่แข็งมนุษย์ ที่เรียกว่า Bedford Day เพื่อรอการฟื้นคืนชีพวิธีการแช่แข็งมนุษย์
เริ่มจากวัสดุและสารเคมีที่จะใช้ในกระบวนการแช่แข็งมนุษย์กันก่อน โดยการแช่แข็งมนุษย์นี้จะมีก๊าซไนโตรเจนเหลวเป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งภายในถังไนโตรเจนเหลวที่ว่าก็จะมีสารเคมีผสมไกลคอล เช่น เอทิลีนไกลคอล หรือโพรไพลีนไกลคอลหรือไดเมทิลซัลฟอกไซด์ปะปนอยู่ด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อให้สารเคมีทั้งหมดทำหน้าที่ต้านการเยือกแข็งที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายของศพที่นำมาแช่แข็ง เพราะหากความเย็นก่อผลึกน้ำแข็งกับร่างที่แช่ จะไปทำลายเซลล์ในร่างกายให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย โอกาสจะฟื้นคืนชีพให้ศพก็อาจเป็นไปได้ยากมากขึ้น
ทันทีที่ผู้ป่วยหยุดหายใจ ร่างที่กำลังจะกลายเป็นศพโดยสมบูรณ์นั้นจะถูกนำไปแช่ไว้ในถังไนโตรเจนเหลว ในลักษณะคว่ำศีรษะลง เพื่อปกป้องศีรษะจากอันตรายในกรณีที่เกิดการรั่ว แล้วก็แช่ร่างมนุษย์เอาไว้อย่างนั้น ให้ความเย็นจากสารเคมีหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายให้คงสภาพการมีชีวิตอยู่ เสมือนสตาร์ฟเซลล์เอาไว้เพื่อรอวันที่เทคโนโลยีทางการแพทย์จะสามารถรักษาอาการป่วยของร่างที่แช่อยู่ได้

ไครโอนิกส์ แช่แข็งมนุษย์-โกงความตาย

ภาพจาก Alcor Life Extension Foundation
แม้จะมีการดำเนินการอย่างแพร่หลายไปพอสมควรสำหรับการทำไครโอนิกส์ แต่ในทางจริยธรรม ก็ยังมีข้อถกเถียงมากมายจากทั้งแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ ที่มองว่า ไครโอนิกส์ เป็นวิทยาศาสตร์ที่อยู่บนพื้นฐานของการสร้างความหวัง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานองค์ความรู้ที่มีจริง ยังไม่รวมถึงการที่หากเก็บรักษาร่างกายของมนุษย์ได้ยาวนานถึงพันปี เมื่อวันหนึ่งวิทยาศาสตร์สามารถปลุกพวกเขาขึ้นมาได้ พวกเขาจะยังคงอัตลักษณ์ของตนเองและมีความรู้สึกนึกคิดเช่นมนุษย์ปกติได้อีกครั้งหรือไม่ ที่สำคัญ พวกเขาจะไม่มีเพื่อนหรือครอบครัวหลงเหลืออยู่ และอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อถกเถียงกันมาก ก็คือ เทคโนโลยีนี้นอกจากจะขัดแย้งต่อความเชื่อที่เกี่ยวกับความตายในหลายๆศาสนาแล้ว ยังอาจเป็นการสนับสนุนการการุณยฆาต ที่คนซึ่งเป็นโรคร้าย หรือแม้แต่แก่ชรา ยอมแช่แข็งตัวเองก่อนที่โรคร้ายหรือความชราจะคร่าชีวิตของพวกเขา

logoline