svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"กนก" ชี้ เมื่อพี่ไม่อยู่...ใครจะคุ้มกะลาหัว

07 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากกรณี อุทธรณ์คดีระบายข้าวจีทูจี ศาลพิพากษาแก้เพิ่มโทษจำคุก "บุญทรง" อีก 6 ปี รวมจำคุก 48 ปี ส่วนกลุ่มโรงสีที่เคยได้รับการยกฟ้อง เจอโทษจำคุก-ปรับ 6 ราย แต่รอลงอาญา 3 ปี

องค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ศาลฎีกาใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงอ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี จำนวน200หน้า ซึ่งผลปรากฏว่า พิพากษาจำคุก นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพิ่มขึ้นอีก 6 ปี จากเดิมมีกำหนดจำคุก 42 ปี รวมเป็น 48 ปีเนื่องจากเห็นว่าสิ่งที่นายบุญทรง ยื่นอุทธรณ์มาว่าทำตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ยุทธศาสตร์การระบายข้าวของรัฐบาล ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าฟังไม่ขึ้น และการกระทำผิดของนายบุญทรงถือเป็นการสมคบคิดร่วมกันกระทำผิดของนักการเมือง และข้าราชการ รวมถึงนักธุรกิจศาลฎีกายังให้ลงโทษ บริษัทโรงสี ได้แก่
นายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการบริษัท จำเลยที่ 26 และนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการบริษัท จำเลยที่ 28จากเดิมที่ยกฟ้อง ให้จำคุกคนละ 4 ปี พร้อมปรับ 25,000บาทนอกจากนี้ยังให้ปรับนิติบุคคล ซึ่งเป็นโรงสี อีก 4 รายคือ
1. ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร จำเลยที่ 22
2. บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด โดยนายทวี อาจสมรรถ กรรมการ เป็นจำเลยที่ 24
3. บริษัท เค.เอ็ม.ซี.อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด จำเลยที่ 25
และ 4. บริษัท เจียเม้ง จำกัด จำเลยที่ 27 อีกรายละ 25,000 บาท
ส่วนการกระทำของ นายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยที่ 23 เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษ 2 กระทง รวมจำคุกจำเลยที่ 23 จำนวน 8 ปี และปรับ 50,000 บาท โดยที่พฤติการณ์ของกลุ่มโรงสี
จำเลยที่ 23, 26, 28 นั้น เห็นสมควรให้รอลงอาญาไว้คนละ 3 ปีนอกจากนี้ยังให้กลุ่มโรงสีจำเลยที่ 22-23 ชดใช้เงิน 27 ล้านบาทให้กับกระทรวงคลัง
จำเลยที่ 25-26 ร่วมกันชำระเงิน 15 ล้านบาท
และจำเลยที่ 27-28 ให้ร่วมกันชดใช้เงิน 55 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ได้มีการกำหนดในคำพิพากษานี้ตามที่อัยการสูงสุดก็คือโจทก์ ยื่นอุทธรณ์นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามที่ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษา
ทั้งนี้ผลจากคดี โจทก์เป็นผู้ยื่นเพิ่มโทษจำเลย ในคดีนี้ทั้งหมด รวมทั้งผู้ที่ศาลเคยยกฟ้องโดยวันนี้องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ได้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดของจำเลยแต่ละคนตามคำพิพากษาแล้ว พร้อมออกคำบังคับการชดใช้ค่าเสียหายในส่วนแพ่งให้กับกระทรวงการคลังตามคำพิพากษาด้วย

"กนก" ชี้ เมื่อพี่ไม่อยู่...ใครจะคุ้มกะลาหัว


ล่าสุด "กนก รัตน์วงศ์สกุล" ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับประเด็นข้างต้น โดยระบุข้อความว่า
ช่างเป็นภาพล้อที่เจ็บแสบ..

ขณะที่คนหนึ่งถูกจองจำมา 2 ปี อีกคนก็เร่ร่อนไปในเวลาเท่ากัน

คนหนึ่งต้องนั่งนับปฏิทินในห้องสี่เหลี่ยมอีก 46 ปี อีกคนต้องบ้านแตก หนีห้องเดียวกันไปอีก.. เท่าไหร่ล่ะ..

ตัวพี่ทำสถิติไว้ 11 ปี ตัวน้องอาจลบสถิติได้ เพราะอายุน้อยกว่า 18 ปี

ตัวพี่คงต้องจบชีวิตไม่ประเทศใดประเทศหนึ่ง โอกาสจะกลับมาตายรัง แทบเป็นไปไม่ได้..

เมื่อวันที่ตัวพี่ต้องหนีไปชดใช้กรรมในนรกมาถึง แล้วใครจะคุ้มกะลาหัว.. ใครจะพาน้องหนี.. ใครจะคอยซื้อสัญขาติ เพิ่มพื้นที่สัมภเวสีให้..

ตัวน้องจะใช้ชีวิตช็อปปิ้งในยุโรปจนแก่เฒ่า หรือ จะคิดอะไรได้บ้าง หลังจากพี่ตายไป?

เพราะพี่บอกไว้ จะไม่ให้น้องติดคุก ฉะนั้นเมื่อพี่ยังอยู่ พี่ก็ดึงน้องเป็นเพื่อนเที่ยวหนีกรงขังไปเรื่อยๆ

แต่เมื่อวันที่พี่ตาย (เร็วช้าต้องมาถึง) หลังจากนั้นตัวน้องจะทำอย่างไร?

จะใช้ชีวิตแบบไม่ใช้หัวคิด เพราะพี่คิดให้ไม่ได้แล้ว แล้วทำไม..ไม่เริ่มหัดคิดเสียตอนนี้

ใจคอจะปล่อยให้ลูก มีชีวิตอยู่ท่ามกลางสายตา และคำถาม "เจอแม่บ้างมั๊ย..แม่หนีไปกี่ปีแล้ว..ฯ ล ฯ..?"

หรือมีแผนจะพาลูกกระเตงไปด้วย.. หรือจะทำแบบพี่ ปล่อยให้ลูกๆ อยู่ในวงสังคมแคบๆ ห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่ ส.ว.พูดในสภา..

ให้ลูกโตอยู่กับ ส.ส.ขี้ข้าโจร !!

เมืองไทยเรายังไงก็จะมี คนแบบนี้ แม้จะเกิดกรณีของบุญทรง อีกกี่ครั้ง ก็จะมี "ขี้ข้าโจร" ขายชีวิต ยอมก้มหัวลอดหว่างขา 2 โจรพี่น้อง

ที่อยู่ในพรรคนั่น..ใช่หมด!

"กนก" ชี้ เมื่อพี่ไม่อยู่...ใครจะคุ้มกะลาหัว


logoline