วันที่ 6 กันยายน รายงานข่าวแจ้งว่าเกิดเรื่องอื้อฉาวซ้ำภายในบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังมีการแชร์ภาพและวิจารณ์กันไปทั่วในกลุ่มไลน์ของลูกเรือ เนื่องจากมีการจับกุมพนักงานต้อนรับหญิงบนเครื่องบิน หรือ แอร์โฮสเตส ที่ลักลอบขนสินค้าแบรนด์ดังหลายชนิดทั้งกระเป๋า เข็มขัด ฯ หลบเลี่ยงภาษีเข้าไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องฉาวกรณีสจ๊วตลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่นเข้าไทย โดยกรณีล่าสุดกับเรื่องอื้อฉาวที่ผ่านมาเป็นการประสานความร่วมมือกันระหว่างการบินไทยและกรมศุลกากรของไทยในเวลาต่อมาได้รับการยืนยันและชี้แจงจากทางการบินไทยถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินมาตรการกวาดล้างพนักงานที่ขนส่งสินค้าผิดกฏหมายหรือนำสินค้าหนีภาษีเข้าประเทศ โดยแจ้งเบาะแสให้ศุลกากรตรวจจับ
ด้านนายสุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน บริษัท การบินไทยฯเปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่จะป้องปรามและปราบปรามพนักงานที่มีพฤติกรรมนำสินค้าผิดกฏหมายและ นำสินค้าเกินจำนวนที่ศุลกากรกำหนดเข้าประเทศไทยและเลี่ยงการเสียภาษีให้หมดจากการบินไทย โดยบริษัทฯได้มีการติดตามดูพฤติกรรมของพนักงานที่น่าสงสัยและประสานงานกับศุลกากรอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยแจ้งเบาะแสให้ศุลกากรทราบเพื่อตรวจจับ
ทั้งนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ตรวจจับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงที่นำสินค้าเกินจำนวนที่ศุลกากรกำหนดเข้าประเทศและเลี่ยงการเสียภาษีอย่างถูกกฏหมาย โดยเดินทางมาจากประเทศอิตาลี เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้ปรับและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของบริษัทฯ มีบทลงโทษพนักงานที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ตามระเบียบของบริษัทฯ ซึ่งโทษสูงสุด ถึงขั้นไล่ออก นอกจากนี้จากกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการลงโทษทางวินัยกับพนักงานคนดังกล่าว และจะดำเนินนโยบายปราบปรามผู้ที่มีพฤติกรรมแบบนี้ให้หมดไปจากการบินไทย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างและเพื่อชื่อเสียงของบริษัทฯ
รายงานข่าวระบุอีกว่า กรณีสจ๊วตฉาวการบินไทยที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ที่ลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่นใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว โดยแนวโน้มคือไล่ออก เช่นเดียวกับเหตุการณ์ล่าสุดก็จะใช้บรรทัดฐานเดียวกัน