"น้าต๋อย เซมเบ้" เผยข้อคิดการใช้ชีวิตจากการพากย์ "ไจแอนท์"

โดย "น้าต๋อย เซมเบ้" ได้ระบุว่า 
ผมใช้เวลาอยู่กับ "ไจแอนท์" จนผูกพันเหมือนเป็นเพื่อนรักของผมคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนรักของผมคนนี้ แม้จะดูเกเร และก้าวร้าวไปบ้าง แต่ก็เคารพคุณแม่ และรักน้องเป็นที่สุด แม้จะแกล้งหรือรังแกเพื่อน แต่เมื่อเกิดเหตุคับขัน ก็พร้อมที่จะพุ่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างไม่คิดเสมอ ทำให้ผมชื่นชอบในตัวเค้ามาก แต่สิ่งที่ทำให้ผมชื่นชอบในตัวเค้ามากที่สุด และทำให้ผมได้แง่คิดดีๆ ในการใช้ชีวิต คือ

"การไม่ย่อท้อต่อความฝัน"
ไจแอนท์ใฝ่ฝันมาตลอดว่า อยากเป็นนักร้อง อยากเป็นพ่อครัว แม้เขาจะร้องเพลงได้เสียงดีมากอย่างที่เรารู้ๆ กัน (เสียงหลงแบบใครได้ยินเป็นต้องลงไปนอนดิ้นทุรนทุราย) แต่เขาก็ยังคงร้องฝึกฝนต่อไป ถึงขั้นจัดคอนเสิร์ตบ่อยครั้ง เพื่อซ้อมการเป็นนักร้องในอนาคต! หรือแม้แต่การทำอาหารของเค้าที่เข้าครัวทีไร แล้วแม่มาเห็น เป็นบ้านแตก! แต่ก็ยังคงแอบเข้าห้องครัวอยู่บ่อยๆ เพื่อฝึกฝนไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าหนทางสู่การเป็นพ่อครัวนั้นไม่ไกลเกินเอื้อม แค่ลงมือทำ
เห็นไหมครับ แม้จะมีอุปสรรค หรืออะไรหลายๆ อย่างไม่ดลใจให้ราบรื่นหรือเป็นไปอย่างที่คิด ไจแอนท์ก็ยังคงพุ่งชนเข้าหาความฝันของเค้าอยู่เสมอๆ อย่างไม่ย่อท้อ
มันทำให้ผมหันกลับมามองที่ตัวเอง แล้วนึกถึง "ไจแอนท์" ทุกครั้งเวลาที่ผมเหนื่อยหรือท้อหรือสิ้นหวัง ผมก็จะนั่งอมยิ้มคนเดียวเมื่อนึกถึงก่อนจะมีแรงฮึดสู้ต่อครับ
อย่างตอนพากย์ ไจแอนท์ ผมก็เคยท้อใจบ้างเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะตอนร้องเพลง ทำผมหนักใจทุกทีเชียว เพราะผมนั้นเป็นคนร้องเพลงเพราะ แต่ผมก็ผ่านมาได้ ร้องได้ดีจนทุกคนตราตรึงเสียงร้องไจแอ้นท์ของผมเลย จริงไหมครับ ฮ่าๆ
ดังนั้นนะครับ ในวันที่คุณรู้สึกแย่ ผมอยากให้คุณลองนึกถึงการ์ตูนเรื่องโปรดของคุณดูครับ คุณอาจจะเจอแง่คิดดีๆ คำตอบดีๆ ที่จะเป็นแรงฮึดให้คุณสู้ต่อไปก็ได้นะครับ หรือถ้าตอนนี้คุณมีแล้ว ช่วยแชร์ให้ผมอ่านบ้างนะครับ ^_^
#ไจแอนท์ # #Jaian #BigG #timemachine