18 ก.ย. จบเกมปมถวายสัตย์

ทำเอา "เพื่อไทย-อนาคตใหม่" แทบไปไม่เป็น ต้องเปลี่ยนเกมเล่น เซ็ตคนวางกำลังมืออภิปรายกันใหม่โดยด่วน จากเดิมที่วาง "ขุมกำลัง" ที่ไม่ได้อภิปรายในวันแถลงนโยบายรัฐบาลเอาไว้หลายสิบ ได้มีโอกาสโชว์ฝีปากเชือด "บิ๊กตู่" กลับต้องแห้ว หลงเหลือแต่ "ขุนพลหน้าเก่า" แย่งซีนกันพูด
ยิ่งเมื่อโดน "บิ๊กตู่" ที่แท็กทีมกับ "ขุนพลพปชร." ขู่-ปราม ให้รับผิดชอบเองด้วยตัวเอง หากพูดจาเกินเลยจนเกิดผลกระทบ ยิ่งทำให้ "ขุนพลแถวสอง" ต้องถอยกราวรูด เพราะแต่เดิมอยากอภิปราย ปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ พ่วงด้วยการแถลงนโยบายรัฐบาลที่ไม่ระบุตัวเลขงบประมาณไว้อย่างชัดเจน
เมื่อเวลาจำกัดเหลือเพียง 1 วัน ประเด็นหลักในการอภิปราย จึงถูกโฟกัสไปที่ปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบเพียงอย่างเดียว แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีประเด็นให้อภิปรายมากพอหรือไม่ ทำให้ "ส.ส.อีสานเพื่อไทย" บ่นอุบเสียดายโอกาสที่มีแค่ปีละครั้งและมีความเป็นไปได้สูงที่ "บิ๊กตู่" หลักการถวายสัตย์ปฏิญาณตนแค่กรอบกว้างๆ งานหลักอยู่ที่ "วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ผู้รู้และเข้าใจจารีตประเพณีอย่างดีเป็นคนอธิบายแทนทั้งหมด ระดับ "เนติบริกร" คงพลาดยาก
สวนทางกับ "ฝ่ายค้าน" ถูกจับจ้อง หากพลาดพูดเลยกรอบมีหวังพังทั้งขบวน แม้ "ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการ พรรคอนาคตใหม่ ตัวตั้งตัวตีผู้ปูดปมถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบ จะมั่นใจว่าเตรียมตัวมาดี ก็ใช่ว่าโอกาสพลาดจะไม่มี แม้การพูดในสภาจะมีเอกสิทธิ์ ส.ส. คุ้มตัวอยู่ แต่หากพาดพิงจนเกิดความเสียหาย มีสิทธิโดนสอยร่วงเหมือนกัน
เกมล่อเสือออกจากถ้ำ เหมือนจะประสบความสำเร็จ แต่พลาดเป้าหลัก ระวังมีหวังเสียของเปล่าประโยชน์ ซึ่งเป็นบทเรียนของ "เพื่อไทย" ที่หลงเหลี่ยมยอมให้ "อนาคตใหม่" เดินเกมนำ เล่นบทนำ จนเสียหลัก-เสียโอกาส
18 ก.ย. "บิ๊กตู่" หวังจบปมถวายสัตย์ "ฝ่ายค้าน" หวังเปิดแผลเอาไว้ต่อยอด จับตาใครจะพลาดพลั้งก่อนกัน