อดีต ผอ.รร.โพสต์ชม "ณัฏฐพล"ลงพื้นที่คนเดียว เยี่ยม ร.ร.แบบไม่จับผิด

ล่าสุด นายอุดร สารคาม อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนหนองแค "สรกิจพิทยา" ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ผอ.อุดร สารคาม โพสต์ภาพและข้อความประทับใจ โดยระบุว่า...
น่ารัก..น่าชื่นชม
เมื่อเสนาบดีกระทรวงศึกษาธิการ เยี่ยมโรงเรียนโดยไม่ได้นัดหมาย ใช้รถส่วนตัว ไม่มีผู้ติดตาม 

.

นำรอยยิ้มมาฝากผู้บริหาร คุณครู นักเรียนและบุคลากรทุกคน ทุกคนไม่รู้สึกกดดัน วิตกกังวล กับการเตรียมการต้อนรับ ไม่ต้องเสียงบประมาณเตรียมการต้อนรับ
ภาพเหตุการณ์อย่างนี้ไม่เคยมีมาก่อน บรรยากาศในห้องดนตรีที่นักเรียนกำลังฝึกซ้อมดนตรี แล้วมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาเยี่ยม มาชมการฝึกซ้อม และสนทนาด้วย เป็นภาพที่น่ารักและบ่งบอกว่าจากนี้เป็นต้นไป กระทรวงศึกษาธิการจะเกิดการพัฒนา การจัดการศึกษาจะต้องเปลี่ยนแปลงและพลิกโฉม หรือก้าวกระโดด เหตุเพราะรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงศึกษาธิการออกเก็บข้อมูลด้วยตนเอง

.

ต่อมา ความประทับใจและความศัทธายังไม่หมดแค่นั้น เฟซบุ๊ก ผอ.อุดร สารคาม ยังโพสต์ภาพและข้อความ ระบุว่า...คุณครูยิ้ม นักเรียนปลื้ม อิ่มเอมใจ
ครูคนใหม่ มาเยี่ยมเยือน สนิทเสน่หา
รัฐมนตรี ศึกษาธิการ เดินทางมา
เพื่อค้นหา ความต้องการ ของผู้เรียน
โชคดีของชาวกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รัฐมนตรีว่าการ เฉกเช่น #คุณครูณัฐพล ทีปสุวรรณ ที่ยึดหลัก "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปไหน เมื่อผ่านโรงเรียนใด ท่านแวะทันที ขอเข้าเยี่ยมชมแบบกัลยาณมิตร ไม่ใช่มาจับผิด ท่านสุภาพ อ่อนน้อม กลยุทธนี้ท่านรัฐมนตรีจะมีแต่ได้คือ ได้งานได้เห็นของจริง ได้ใจของคุณครูแบบนานเท่าไรก็ไม่ลืม และคุณครูก็จะพร้อมก้าวไปกับท่าน
ผู้เขียนไม่เคยเชียรและชื่นชมรัฐมนตรีคนใดมาก่อนเเต่ครั้งนี้รู้สึกศรัทธา ต่อไปนี้ทุกโรงเรียนคงจะต้องเตรียมพร้อม เพราะไม่รู้ว่าวันใด รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะเข้ามาเยือน ผู้บริหารและคุณครูคงไม่กล้าไปไหนถ้าไม่จำเป็น การพัฒนาโรงเรียนในทุกด้านก็จะเกิดขึ้นแบบไม่ต้องสั่งการหรือกระตุ้น นักเรียนจะได้รับผลประโยชน์เต็มที่ เพียงรัฐมนตรีมาเยี่ยมแบบไม่รู้ตัว
#นี่ไงครับที่ว่าช้างเหยียบนาพระยาเหยียบเมือง

และล่าสุดความประทับของ ผอ.อุดร สารคาม ยังได้โพสต์ข้อความประทับใจว่า...
น่ารักมาก....รัฐมนตรี ศธ.ถอดรองเท้า วางเรียงเข้าแถวกับรองเท้านักเรียยก่อนเข้าห้อง
สองมือล้วงกระเป๋าพูดคุยกับนักเรียนเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน เสมือนเพื่อน มาพบกัน ทำให้ช่องว่างระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กหมดไป สิ่งที่รัฐมนตรีได้คือความใสบริสุทธิของของนักเรียน ที่จะสะท้อนความรู้สึกนึกคิดที่แท้จริงออกมา ไม่ต้องพูดตามบทที่ต้องซ้อม และการมาท่านเดียวของรัฐมนตรี ที่ไม่มีกองทัพผู้ติดตาม ไม่มืกองทัพตากล้องมารุมล้อม ยิ่งทำให้นักเรียนไม่ประหม่าเขินอาย