"บุญยิ่ง" ส.ส.ราชบุรี เสนอแก้ปัญหาให้ชาวราชบุรี

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯเป็นประธานการประชุม วาระการปรึกษาหารือของสมาชิก โดยนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวหารือว่า มีประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ กม.ที่118/15-16 (ปากท่อ-บางเค็ม) มีความยาว 344 เมตร ใช้งบประมาณ 219 ล้านบาท เป็นสะพานข้ามทางรถไฟเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้รถและสามารถลดอุบัติเหตุ ทำให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไป-มา มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ซึ่งในขณะนี้โครงการใกล้เสร็จแล้ว และได้รื้อเครื่องกั้นทางรถไฟเดิมออก และกำลังจะปิดกั้นทางสัญจรอย่างถาวร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนเดินเท้า ผู้ใช้รถจักรยานและจักยานยนต์เป็นอย่างมาก เนื่องจากสะพานมีความสูงและยาวถึง 344 เมตร การที่จะใช้ทางดังกล่าวอาจจะไม่ปลอดภัย เพราะมีรถยนต์และรถบรรทุกสัญจรเป็นจำนวนมาก การที่คนเดินเท้า จักรยานและจักยานยนต์ จะใช้สะพานร่วมกับรถขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นอันตรายมาก
ซึ่งตรงจัดนี้จะมีการสร้างอุโมงค์ทางลอด แต่โครงการดังกล่าวยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง ถ้าจะยกเลิกโครงการอุโมงค์ทางลอด ขอให้ช่วยสร้างสะพานลอยสำหรับคนเดิน รถจักรยานและจักรยานยนต์ด้วย ตนขอฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้ทางด้วย
นางบุญยิ่ง กล่าวอีกว่า อีกเรื่องหนึ่งคือ โครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อ.สวนผึ่ง จ.ราชบุรี เนื่องจากปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย เพราะพื้นที่ต.สวนผึ้งและตงตะนาวศรีบางส่วน ได้ถูกประกาศเป็นที่ดินราชพัสดุแปลง ร.บ. 553 ภายใต้การดูแลของกรมการทหารช่าง และกองพลพัฒนาที่ 1 ซึ่งอนุมัติงบประมาณของหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อดำเนินการตามโครงการต่างๆเพื่อพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าว สำนักงบประมาณกำหนดให้ต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อดำเนินการโครงการพัฒนาในพื้นที่ทั้ง 2 ตำบล จะต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรี โดยการยินยอมของหน่วยทหารที่ดูแลพื้นที่อยู่ การขอใช้พื้นที่แต่ละครั้งต้องผ่านหลายหน่วยงาน ใช้เวลานานพอสมควร โดยเฉพาะโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากภัยแล้งและอุทกภัย ปีงบประมาณ 2562 มีระยะเวลาจำกัด ไม่สามารถดำเนินโครงการได้ทันตามกำหนด จึงอยากให้เร่งรัดการดำเนิการในเรื่องนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน