จักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2562 ว่า
"การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปตามแผนงาน โดยบริษัทฯ มีกําไรจากการดำเนินงานปกติ ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า จำนวน 5,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,045 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23 หากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2562 บริษัทฯ มีกําไรจากการดำเนินงาน ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า 2,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 106 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท ในวันที่ 16 กันยายน 2562"
ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ "ไซยะบุรี" และ "น้ำเทิน 1" ใน สปป.ลาว และโรงไฟฟ้าถ่านหิน "ซานบัวนาเวนทูรา" ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความก้าวหน้าตามแผนงาน โดยโรงไฟฟ้า "ไซยะบุรี" และ "ซานบัวนาเวนทูรา" มีกำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ในไตรมาส 4 ปี 2562 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้น
ในขณะที่โรงไฟฟ้า "น้ำเทิน 1" คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2565 สำหรับโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง "กังดง" ประเทศเกาหลีใต้ เพิ่งเริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคม 2562 และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2563
ด้านความคืบหน้าในการลงทุนในปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน ภายใต้ชื่อ "นิคมอุตสาหกรรม เอ็กโกระยอง"
โดยได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างข้อเสนอโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าระยอง จ.ระยอง เป็นนิคมอุตสาหกรรมในลักษณะ Smart Industrial Estate รองรับการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 นายจักษ์กริช กล่าวเสริมว่า "เอ็กโก กรุ๊ป ยังแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญ ทั้งโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล พลังงานหมุนเวียนและเชื้อเพลิงใหม่ เช่น เซลล์เชื้อเพลิง โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะขยายการลงทุนในประเทศที่มีฐานอยู่แล้ว เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และเจาะตลาดในประเทศใหม่ๆ เช่น ไต้หวัน เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เช่น ธุรกิจ LNG และนิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน เพื่อให้สอดรับกับยุคดิสรัปชั่น"