svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์เร่งผลักดันกรอบข้อตกลงการค้าตามนโยบายรัฐบาล

03 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รับนโยบาย 'จุรินทร์' และ 'วีรศักดิ์' ลุยงานครึ่งหลังปี 2562 เร่งขับเคลื่อนการเจรจาการค้าในประเด็นสำคัญให้เห็นผลโดยเร็ว ทั้งการสรุปการเจรจาความตกลง RCEP ให้ได้ในปีนี้ พร้อมเร่งเจรจาเอฟทีเอไทย-ตุรกี ไทย-ปากีสถาน และไทย-ศรีลังกา ฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู หาข้อสรุปการเจรจาความตกลง CPTPP และเร่งลงพื้นที่ใช้ความตกลงทางการค้าดันสินค้าเกษตรและสินค้าท้องถิ่นออกสู่ตลาดโลก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากกรมฯได้รับนโยบายจากนายจุรินทร์ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวีรศักดิ์หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรม จึงกำหนดแผนงานสำหรับครึ่งปี2562 โดยมีประเด็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ 1.เร่งหาข้อสรุปการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ให้ได้ในปี 2562ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย จะเป็นประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีอาร์เซ็ปที่จะจัดขึ้นในระหว่าง 7-8 กันยายน 2562 ที่กรุงเทพฯเพื่อขับเคลื่อนการเจรจาให้สมาชิกอาร์เซ็ปทั้ง 16 ประเทศสามารถหาข้อสรุปในประเด็นที่ยังมีความเห็นและท่าทีที่ต่างกัน เช่นพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กลไกการระงับข้อพิพาท การลงทุน การเคลื่อนย้ายบุคคล เป็นต้น


2.สานต่อการเจรจาความตกลงเอฟทีเอที่ค้างอยู่ให้คืบหน้าซึ่งไทยมีกำหนดประชุมกับปากีสถานรอบต่อไปในเดือนตุลาคมนี้และหารือกับตุรกีในเดือนธันวาคม 2562 ส่วนศรีลังกาอยู่ระหว่างรอส่งสัญญาณความพร้อมหลังการปรับคณะเจรจาของศรีลังกา 3. เตรียมฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูโดยคาดว่าผลการศึกษาและการรวบรวมความเห็นของภาคส่วนต่างๆของไทยจะเสร็จในปลายเดือนตุลาคมนี้หลังจากนั้นจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและคณะรัฐมนตรีพิจารณา


4.การหาข้อสรุปเรื่อง CPTPP เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา กรมฯได้จ้างศึกษาประโยชน์และผลกระทบต่อไทยในการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(CPTPP) รวมทั้งได้จัดหารือเพื่อระดมความเห็นผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนทั่วประเทศซึ่งกรมฯ จะนำสรุปผลการศึกษา และผลการระดมความเห็นเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปและ 5) การเจรจาเอฟทีเอกับสหราชอาณาจักร ภายหลังเบร็กซิท (Brexit) ขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างหารือกับสหราชอาณาจักรเรื่องการจัดทำข้อมูลนโยบายการค้าและศึกษาความเป็นไปได้ (feasibility study) ที่จะทำเอฟทีเอระหว่างกัน

"กรมฯ เล็งเห็นว่าความคืบหน้าในเรื่องเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเปิดตลาดและขยายส่วนแบ่งการค้าของไทยในตลาดโลกโดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญวิกฤติและความท้าทายจากการที่หลายประเทศมีการใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างกัน"นางอรมน กล่าว


นอกจากนี้กรมยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จากการเจรจาได้สูงสุดรวมถึงรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ กรมฯจึงเดินหน้าจับมือกับหน่วยงานพันธมิตร เช่น สภาเกษตรกรแห่งชาติ กรมส่งเสริมสหกรณ์สภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ เป็นต้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความตกลงเอฟทีเอ ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ ผลกระทบและการปรับตัวของไทยต่อไป โดยจะลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศและเน้นสินค้าในพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรสำคัญของไทย เช่น ข้าว ยาง มันสำปะหลังผัก ผลไม้ โคนม โคเนื้อ และอาหารแปรรูปต่างๆ เป็นต้น

 

logoline