น้ำท่วมพิจิตร​ ไร้สัญญาณ​เตือนภัย​เสียหายหนัก

1 ก.ย. 62 - นี่คือบรรยากาศที่ตลาดศรีสวัสดิ์ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของอำเภอทับคล้อจังหวัดพิจิตร ต้องถูกน้ำท่วม ทั้งหมด โดยน้ำมีกระแสพัดที่รุนแรง ผู้สูงอายุติดเตียงต้องทยอยออกมาจากในพื้นที่เพราะจะเป็นอันตราย ขณะที่การเข้าถึงการรักษา อาจจะเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะว่าหนทางที่เข้าไป มีระดับน้ำลึกสูง วันนี้เราจึงได้เห็นการทยอยนำผู้สูงอายุออกมาจากหมู่บ้านท้ายตลาด บางส่วนลูกหลานก็รับไปอยู่ที่กรุงเทพฯ

แต่สำหรับคนที่ยังอยู่ภูเขาบอกว่าภัยพิบัติครั้งนี้รุนแรงมากที่สุดในรอบ 30 ถึง 20 ปี ขณะที่ความเสียหายเกิดขึ้นหนักกว่าทุกครั้งเพราะไร้สัญญาณการเตือนภัย เนื่องจากลำโพงของอำเภอชำรุด ชาวบ้านรู้ล่วงหน้าเพียงแค่ 10 นาที จึงทำให้ไม่สามารถยกข้าวของที่จะเสียหายจากน้ำขึ้นได้ทัน ขณะที่บางรายรู้จากพื้นที่อื่นแต่ไม่เชื่อว่าน้ำจะมาก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้การ เตือนภัยล่วงหน้าเป็นสิ่งจำเป็นและจะสามารถช่วยลดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติลงได้

เราเดินทางสำรวจออกมานอกตลาดในตัวอำเภอทับคล้อจังหวัดพิจิตรในทางที่เป็นถนนสายหลัก อย่างเช่นเส้นที่ตัดผ่านหน้าอำเภอ น้ำยังคงไหลข้ามถนนไปด้วยกระแสที่เที่ยวตราด รถเล็กยังไม่สามารถสัญจรได้หรือเจ้าหน้าที่จะต้องคอยเช็ดออกมาอย่างทุลักทุเล ในขณะที่บริเวณถนนเอเชียสายเก่าหรือถนนหมายเลข 11 สากเหล็ก-เขาทราย บางช่วงของถนนก็มีน้ำไหลผ่านด้วยกระแสที่รุนแรง ทีมข่าวของเราสังเกตมาตั้งแต่ช่วงเที่ยงมาจนถึงเวลานี้น้ำลดลงอย่างมากแล้ว แต่ทว่าก่อนหน้านี้กระแสน้ำป่าที่พัดมาอย่างรุนแรงนั้นก็ทำให้มีผู้สูญหาย โดยเฉพาะในพื้นที่ของอำเภอทับคล้อมีจำนวนทั้งหมด 3 ราย

หนึ่งในนั้นคือภรรยาของผู้ชายคนนี้ วันนี้เขานั่งดูปฏิบัติการค้นหา ภรรยาที่หายไปเมื่อคืน จากกระแสน้ำที่รุนแรงพัดเธอพร้อมมอเตอร์ไซค์ ที่ขี่ผ่านบริเวณนี้เพื่อที่จะไปช่วยโรงทาน ที่ทำกับข้าวเลี้ยงคนที่ถูกน้ำท่วม

เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะหายไปในช่วงเวลานั้น จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่พบเพียงจักรยานยนต์ที่ตกลงไปในน้ำแต่ยังไม่พบร่างของเธอ แม่เวลานี้จะผ่านไปกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว แต่เขาก็ยังมีความหวังว่าจะพบเธอทั้งที่ยังมีชีวิต

และอีกความเสียหายครั้งใหญ่จากภัยในน้ำท่วมในพื้นที่ของจังหวัดพิจิตร ซึ่งมีที่มาจากน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์และเทือกเขาพิษณุโลกรวมกันนั้น ทำให้นาข้าวที่รอดตายจากภัยแล้ง กลับต้องมาตายเพราะจมน้ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร บอกว่าในพื้นที่มีนาอยู่จำนวน 5000 ไร่ เสียหาย ไป 80% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิชั้นดี ชาวนาที่นี่อุตส่าห์ประคับประคองผ่านช่วงฤดูแล้งที่เกิดฝนทิ้งช่วงมาทุกวิถีทาง จนเกือบจะเปิดศึกชิงน้ำ ไม่มีใครคิดว่าข้าวจะต้องมาตายเพราะถูกน้ำท่วม นี่จึงสะท้อนให้เห็นว่าภัยธรรมชาติในยุคปัจจุบันมีความปั่นป่วน รุนแรง ทั้งแล้งและท่วมในห้วงฤดูเดียวกัน..