โลกส่งสัญญาณ​วิกฤต​ธรรมชาติ! ​ แต่มนุษย์​ยังเดินหน้าล้างผลาญต่อไป​

ไม่มีใครคาดคิดว่า ภาวะฝนทิ้งช่วงที่จนเกิดความแห้งแล้ง แต่ในช่วงปลายของฤดูจะเกิดฝนตกหนักชนิดที่ว่า ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นได้ในภาคอีสาน และภาคเหนือ เป็นความแปรปรวนของสภาพอากาศ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน

เมื่อก่อนสภาพอากาศแบบสุดโต่ง ไม่แล้งก็ท่วมไปเลยในห้วงฤดูเดียว หาน้อยครั้งที่ภัยแล้งกับน้ำท่วมจะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันอย่างที่เป็นอยู่นี้

ไม่มีใครบอกได้ว่านับจากวันนี้เป็นต้นไป สภาพภูมิอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ จะมีลักษณะเป็นอย่างไร มนุษย์อย่างเราทำได้แค่การเตรียมตั้งรับปรับตัว กับภัยธรรมชาติที่จะเกิดแบบแปลกๆและปั่นป่วนมากกว่าเดิม

หลายคนถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความแปรปรวนเช่นนี้ คำตอบคือเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อน ทะเลอุ่นขึ้น กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทาง ทำให้โลกเสียสมดุล ทุกอย่างเกี่ยวพันกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแก๊สเรือนกระจกเพิ่มอุณหภูมิโลกให้สูงขึ้น ทำให้ภัยพิบัติหลายอย่างรุนแรงมากขึ้น และที่มาพร้อมกับภัยพิบัติไม่ว่าจะแล้งหรือท่วม ก็คือความเสียหาย

อาจเรียกว่าเป็นเรื่องไม่คาดฝันสำหรับชาวนาในพื้นที่จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก ที่ก่อนหน้านั้นฝนทิ้งช่วงจนข้าวยืนต้นตาย เปิดศึกแยกน้ำในพื้นที่ ชาวนาประคับประคองข้าว หาน้ำมาใส่ไม่ว่าจะสูบน้ำบาดาล หรือวิธีใดก็ตาม จนเลี้ยงข้าวมาจวนจะออกรวงและเกี่ยวขายได้

ทว่าภัยแล้งที่เกือบทำให้ข้าวเสียหายไปทั้งหมด ยังมีบางส่วนที่รอด ไม่มีใครคิดอีกเช่นเดียวกันว่า จากความแห้งแล้งจู่ๆฝนจะตกลงมาจนกระทั่งท่วมนาข้าวที่จะเกี่ยวได้

ชาวนาคิดว่าตอนแรกข้าวจะตายเพราะภัยแล้งแต่ไม่เลย กลายเป็นว่าข้าวตายเพราะถูกน้ำท่วม ไม่ต่างอะไรจากความฝัน แต่ตอนนี้มันคือเรื่องจริง

เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ กว่านี้ หรือไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่จะช่วยให้เราเตรียมตัวตั้งรับกับรับมือกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น แบบรู้ล่วงหน้าเป็นเดือน เป็นปีแบบแม่นยำเห็นภาพอนาคต

ถ้าเรารู้ล่วงหน้าว่าเดือนกันยายนฝนจะตกจนน้ำท่วม ขนาดนี้ จะสามารถนำข้อมูลนี้ไปวางแผนการปลูกข้าวได้หรือไม่ แต่แน่นอนพายุก่อตัวขึ้นไม่บอกให้รู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว

มากไปกว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น การวางผังเมืองที่ผิดพลาด สิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางทางน้ำ การถมที่ดินที่ทำให้น้ำไม่มีที่ไป เหล่านี้กับกลายเป็นการทับถมซ้ำเติมให้ภัยน้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้นโดยไม่จำเป็น

มนุษย์เราต้องฉลาดขึ้น เมื่อธรรมชาติแปรเปลี่ยน แต่เราก็ไม่รู้ว่า ระหว่างภูมิปัญญาของมนุษย์ กับภัยธรรมชาติใครจะทันกว่ากัน

ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีโครงการใหญ่ๆเกี่ยวกับการจัดการน้ำเกิดขึ้นมากมาย เพื่อรับมือกับสภาวะธรรมชาติปั่นป่วนเอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นโครงการผันน้ำ ที่สูบน้ำจากที่อื่นมาเติมเขื่อน และโครงการสร้างเขื่อนมากๆ ด้วยหวังว่าจะเป็นกลไกในการรับมือธรรมชาติ ให้สามารถควบคุมได้จัดการได้

ท่ามกลางการสร้างเพื่อควบคุมจัดการ - รองรับธรรมชาติ มนุษย์ก็ยังทำลายธรรมชาติต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ทั้งการใช้พลังงาน การบริโภคที่สิ้นเปลือง เผาป่า ตัดไม้

เราไม่แน่นใจจริงๆว่า ระหว่างภูมิปัญญาในการรับมือจัดการภัยพิบัติ และควบคุมธรรมชาติของมนุษย์ กับความปั่นป่วนของธรรมชาติใครจะชนะใคร หรือใครจะเหนือกว่ากัน

#วชิรวิทย์ #วชิรวิทย์รายวัน #Vajiravit #VajiravitDaily #Nation #NationTV