ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาทางกระทรวงพาณิชย์และกรมทรัพย์สินทางปัญญามีโอกาสได้รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ทำให้ทราบว่าชาวโคราชตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของ GI ที่จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีซึ่งต่อไปภาครัฐจะลงมาทำงานร่วมกับพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน GIได้ทั้งระบบ ในระยะแรกจะเป็นการตั้งคณะกรรมการ GI ประจำจังหวัดที่จะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลสินค้า GI โดยตรงช่วยประสานงานเรื่องการจัดทำคำขอ จัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า จัดหาช่องทางการตลาดและผลักดันในด้านต่างๆ อย่างครบวงจร
"ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ผมได้นำคณะผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศพร้อมด้วยคณะทำงานจากภาคส่วนต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ลงมาดูกระบวนการผลิตสินค้าเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนอย่างละเอียดทุกขั้นตอนได้เห็นถึงความพิถีพิถันในการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นแตกต่างจากที่อื่นเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนจึงเป็นอีกหนึ่งสินค้า GI ที่มีศักยภาพที่เราต้องการผลักดันสู่ตลาดโลกและเชื่อมโยงแหล่งผลิตควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวภายในจังหวัดเพื่อต่อยอดการสร้างรายได้ให้กับชุมชนในทุกมิติ" นายวีรศักดิ์กล่าว
นอกจากนี้ ตนยังได้มอบหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดนครราชสีมาอย่างเป็นทางการอีก4 รายการ ซึ่งมีการประกาศขึ้นทะเบียนในระหว่างปี 2561 2562ได้แก่ เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ไวน์เขาใหญ่ ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์และกาแฟวังน้ำเขียว จึงทำให้ปัจจุบันจังหวัดนครราชสีมามีสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาไว้แล้วทั้งสิ้น6 รายการ (อีก 2 รายการ ได้แก่ กาแฟดงมะไฟ และเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน)โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มอบนโยบายแก่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเตรียมผลักดันสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นอื่นๆ ให้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI เช่นผ้าไหมปักธงชัย มะขามเทศเพชรโนนไทย ผ้าไหมคึมมะอุ ฯลฯเพื่อให้จังหวัดนครราชสีมามีสินค้า GI มากที่สุดในประเทศ