เพื่อไทยชี้แก้ศก.ต้องเริ่มจากทำการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยแรงงาน นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ กล่าวถึงสถานการณ์การว่างงาน เลิกจ้าง และปิดกิจการ เหล่านี้เป็นปลายเหตุของปัญหา แต่ต้นเหตุมาจากการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และเมื่อย้อนกลับไป 5 ปีที่ผ่านมา หากมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งประเทศไทยจะไม่เสียตลาดทางยุโรป หรือเกิดปัญหาทางการท่องเที่ยว จะไม่มีความเสียหายทางการส่งออก รวมถึงไม่สูญเสียนักลงทุนชาวต่างชาติ ที่มีกำลังมาลงทุนในประเทศไทย 
ซึ่งจะเป็นกลไกการจ้างงานที่สำคัญ ดังนั้น ต้องกลับไปแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา คือ เรื่องความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและมุมมองของต่างชาติ ว่ายอมรับผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาหรือไม่
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า หากภาพเหล่านี้ไม่ชัดเจน การเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะยังมีปัญหาต่อไป สภาพเศรษฐกิจสะท้อนว่าการบริหารนโยบายเพื่อนำไปสู่การแก้ไขไร้ประสิทธิภาพ รัฐต้องเร่งหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามามีส่วนร่วมในรัฐบาลและที่สำคัญต้องใช้งานบุคลากรที่มีอยู่ให้ตรงกับความเชี่ยวชาญ หรือใช้คนให้ตรงกับงาน อย่ายึดติด การจัดตำแหน่งตามสัดส่วนของพรรคการเมืองเท่านั้น

ขณะเดียวกัน สถิติการฆ่าตัวตายที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลสืบเนื่องจากการเมืองที่มีผลต่อปัญหาเศรษฐกิจ 
ดังนั้น การเริ่มต้นแก้ไขรัฐบาลต้องบูรณาการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมทำงาน และต้องไปพิจารณาว่ามีหน่วยงานใดที่ทำงานในเรื่องลักษณะเช่นนี้ โดยเฉพาะเครือข่ายต่างๆของรัฐบาลที่มีอยู่ทุกหมู่บ้านชุมชน ทั้ง อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะสามารถให้ข้อมูลได้ว่าครอบครัวใดบ้างอยู่ในช่วงยากลำบาก
นอกจากนี้ รวมถึงใช้กลไกศูนย์พัฒนาครอบครัวชุมชน สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีอยู่แล้ว ในทุกตำบลทั่วประเทศ ต้องลงไปให้ความรู้เพราะเชื่อว่าปัจจุบันยังไม่มีความเข้าใจว่าหน่วยงานดังกล่าวมีกลไกการทำงานอย่างไร 
เชื่อว่าหากใช้งานเครื่องมือนี้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถป้องกันปัญหาทางสังคม โดยเฉพาะ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานเด็ก รวมถึงการฆ่าตัวตาย ซึ่งจะทำหน้าที่เฝ้าระวัง โดยเฉพาะปัจจัยที่เป็นแรงกดดันทางสังคม