นักธุรกิจก้มกราบรองผบช.ภาค9ปลด"พ.ต.อ."เป็นชู้กับเมีย

ที่ศูนย์ปฎิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา นายพินิจ รุจิรวนิช นักธุรกิจหาดใหญ่ พร้อมด้วยทนายความ ว่าที่ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ เข้ายื่นหนังสือกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 โดยมีพล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นผู้รับหนังสือแทนสำหรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ขอให้ปลดนายตำรวจยศ "พันตำรวจเอก" นายหนึ่งออกจากราชการ เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กรณีศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา พิพากษาว่า "พันตำรวจเอก" นายนี้มีความสัมพันธ์กับอดีตภรรยาของนายพินิจ จริง ในคำตัดสินศาลสั่งให้จ่ายเงินแก่โจทก์ เป็นเงิน 1 ล้านบาท จากที่ฟ้องเรียกค่าทดแทนจาการเป็นชู้ 100 ล้านบาท

นายพินิจ เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อที่จะมายื่นเรื่องขอให้ผู้บังคับบัญชา สั่งปลดนายตำรวจยศพันตำรวจเอกรายนี้ออกจากราชการ หลังจากมีคดีฟ้องร้องคดีกันมา จึงหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมายื่นร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 และหน่วยงานรัฐหลายแห่ง กลับไม่มีความคืบหน้ากระทั่งวันนี้ได้รับคำพิพากษาของศาลออกมาชัดเจน
นายพินิจ ยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ได้พยายามทำดีที่สุด แต่เนื่องจากคู่กรณีซึ่งเป็นตำรวจยศพันตำรวจเอก ทำให้รู้สึกว่าการเรียกร้องและต่อสู้ที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้า ทำให้ท้อใจมาก โดยเฉพาะการยื่นหนังสือไปยังคณะกรรมการสอบวินัยของตำรวจรายนี้ แต่สิ่งที่ทำได้คือแค่รอความชัดเจนจนกว่าศาลจะมีคำตัดสิน
จนวันนี้ศาล ได้ตัดสินแล้วว่านายตำรวจนายนี้ลักลอบมีความสัมพันธ์กับอดีตภรรยา รวมถึงมีคำตัดสินของศาลแขวงจังหวัดสงขลา ในคดีอดีตภรรยา ร่วมกับพันตำรวจเอก รายนี้ ยักยอกทรัพย์ที่เป็นสินสมรส ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ให้จำคุกตำรวจเอกรายนี้ เป็นเวลา 1 เดือน คดีอยู่ในศาลอุทธรณ์นอกจากนี้เมื่อวานนี้ 28 ส.ค. ศาลจังหวัดสงขลา พิพากษายกฟ้องคดีที่ตำรวจยศพันตำรวจเอก รายนี้ฟ้องนายพินิจ ในคดีความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย

ทั้งนี้ ระหว่างยื่นหนังสือ นายพินิจ ได้ก้มลงกราบกับพื้น ต่อหน้า พล.ต.ต.โพธ เพื่อขอความเป็นธรรม ด้าน พล.ต.ต.โพธ กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน มายื่นคำร้องทุกข์กล่าวหาข้าราชการตำรวจ ในส่วนของตนที่เป็นผู้บังคับบัญชาก็รับเรื่องเอาไว้ และจะเร่งรัดดำเนินการทั้งกระบวนการ และความยุติธรรม ให้กับผู้เสียหายอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลใจ ทางผู้บังคับบัญชาในส่วนของตำรวจภูธรภาค 9 ก็จะดำเนินการทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา และพร้อมให้ตรวจสอบพร้อมจะเร่งดำเนินการให้โดยไม่รอช้า ซึ่งมีความคืบหน้าประการใด ก็จะแจ้งให้กับผู้เสียหายได้รับทราบโดยตรง ส่วนเรื่องการติดขัดต่างๆ หรือการข่มขู่ จะนำเรียนให้กับผู้บังคับบัญชา เพื่อจะดำเนินการในเรื่องวินัย ตามความเหมาะสมสำหรับนายพินิจ เป็นหนึ่งในผู้ที่ ร.ต.อ.วัชรินทร์ เบญจทศวรรษ อดีตตำรวจนักสิทธิมนุษยชน เข้ามาช่วยเหลือในคดีที่ถูกอุ้มตัวไปอ้างว่าจะพาไปโรงพัก แต่กลับนำตัวไปสอบสวนในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งส่วน ร.ต.อ.วัชรินทร์ ถูกคนร้ายยิงตายอย่างเหี้ยมโหดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 จนบัดนี้ตำรวจสงขลา ยังจับตัวคนร้าย มาดำเนินคดีไม่ได้