"ปลัดอำเภอ" ขอโทษ "รพ." เหตุ "อส." ทำร้ายเด็กแว้นคาเตียงผู้ป่วย

หลังจากโลกออนไลน์แชร์ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินของรพ.มหาวิทยาลัยบูรพา แสดงให้เห็นพฤติกรรมรุนแรงของนายภิภัฎก์ษัตยา ถิรวิวัฒน์กุล อายุ 42 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดน จ.ชลบุรี ก่อเหตุทำร้ายนายศรศักดิ์ ขอคนสำโรง อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดี พ.ร.บ.จราจรฯ บนเตียงผู้ป่วยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์วันนั้นมีตำรวจสภ.เสม็ด อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และนายประกาศิต ศึกสงคราม ปลัดอำเภออยู่ในเหตุการณ์ด้วย

ด้านนายประกาศิต ศึกสงคราม ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองชลบุรี บอกว่า รู้สึกตกใจเมื่อเห็นคลิปแชร์ออกไป ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้จงใจวางแผนเข้าไปทำร้าย หากวางแผนมาคงให้ลูกน้องถอดเสื้อกั๊กออกแล้ว โดยคืนเกิดเหตุตนพร้อมลูกน้องได้มาเยี่ยมนายขวัญชัย ช่างเหล็ก หรือน้าหมอ อายุ 57 ปี อาสาสมัครที่ถูกนายศรศักดิ์ ขี่รถจักรยานยนต์หนีด่านพุ่งชนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทราบว่านายศรศักดิ์บาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ห้องติดกัน จึงต้องการไปสอบถามเหตุการณ์ แต่เมื่อนายศรศักดิ์เอ่ยปากขอโทษ ได้กลิ่นเหล้าโชยออกมา ทำให้ลูกน้องของตนโกรธมากจึงมีการรูดม่าน และชกต่อยนายศรศักดิ์ ยอมรับว่าห้ามลูกน้องไม่ทัน ซึ่งหลังเกิดเหตุได้สั่งพักงานนายภิภัฎก์ษัตยาแล้ว แต่เนื่องจากเป็นแค่อาสาสมัครสำรอง มาช่วยงานโดยไม่มีเงินเดือน จึงไม่สามารถดำเนินการทางวินัยได้ส่วนความคืบหน้าอาการของนายขวัญชัย ช่างเหล็ก อาสาสมัครรักษาดินแดนที่ถูกชนได้รับบาดเจ็บ มีการส่งตัวไปรักษาที่รพ.ชลบุรีแล้วตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดรู้สึกตัวแล้ว แต่ยังพูดไม่ได้ สมองยังไม่ปกติ และมีการติดเชื้อแทรกซ้อนทำให้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ส่วนสิทธิ์ในการรักษานั้นมีอยู่แล้ว แต่ต้องใช้ยาส่วนเกินที่เบิกไม่ได้ เช่นยารักษาสมองซึ่งทางอำเภอยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินทั้งหมด "อยากขอโทษทางโรงพยาบาลที่ทำให้ได้รับผลกระทบ และขอโทษสังคมที่เกิดเหตุการณ์นี้ หากจะถูกสอบวินัยก็ไม่ขัดข้อง แต่คลิปที่ออกมาเป็นเพียงบางส่วน ทำให้เหตุการณ์ดูรุนแรง จึงได้ประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากทางรพ. เพื่อจะนำไปชี้เเจงผู้บังคับบัญชา" ปลัดอำเภอกล่าว

ด้านนพ.สุริยา โปร่งน้ำใจ ผอ.รพ.มหาวิทยาลัยบูรพา บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นพบว่า ช่วงที่เด็กถูกส่งตัวเข้ามารักษานั้น อาการไม่หนัก ประกอบกับได้มีผู้ป่วยอาการหนักอยู่ระหว่างการรักษาที่ห้องสีแดง ทั้งแพทย์และพยาบาลจึงไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่อาการหนักกว่า รวมทั้งช่วงนั้นเป็นเวลากลางคืน จะมีพยาบาลเข้าเวรมากกว่า และอัตรากำลังของโรงพยาบาลมีน้อย จึงไม่ได้เข้าไปดูแลเด็ก แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วก็ได้สอบถามทราบว่า ได้มีการพยายามเข้าไปห้ามปรามแล้ว สำหรับผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง อาจจะเป็นเพราะเห็นเป็นข้าราชการ คงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เมื่อมีเหตุขึ้นมาแล้วในฐานะผู้บริหารก็ต้องรับผิดชอบหามาตรการในการป้องกันต่อไป"เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับทางรพ.อื่นๆ สถานที่ของรพ.เป็นสถานที่ที่ต้องช่วยเหลือคน เราจะถ่ายทอดเรื่องนี้ไปยังรพ.อื่นๆ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังจากนี้ ทางรพ.ได้ประสานตำรวจให้มารักษาความปลอดภัย และจะทำประตูนิรภัยเพิ่มเติมให้เปิดได้จากด้านในเท่านั้น" ผอ.รพ.มหาวิทยาลัยบูรพากล่าว

สำหรับความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศทวีทรัพย์ ผกก.สภ.แสนสุข เปิดเผยว่าคดีนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ คดีที่นายศรศักดิ์ ขอคนสำโรง ขี่รถชนอาสาสมัครได้รับบาดเจ็บ ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด 4 ข้อหา คือขับรถโดยประมาทหวาดเสียว, ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และขับรถขณะมึนเมา ส่วนจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องรอดูอาการอาสาสมัครที่ได้รับบาดเจ็บก่อน แต่เบื้องต้นดูจากพฤติการณ์นายศรศักดิ์ไม่ได้มีเจตนาฆ่าอาสาสมัคร แค่ต้องการหลบหนีเท่านั้น

ส่วนคดีที่อาสาสมัครก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายศรศักดิ์ ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล โดยในวันนี้ เวลา 10.00 น. หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนสภ.แสนสุข ได้เดินทางไปที่เรือนจำกลางชลบุรี อ.บ้านบึง เพื่อสอบปากคำนายศรศักดิ์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมแจ้งความอาสาสมัครในข้อหาทำร้ายร่างกาย แม้ว่านายศรศักดิ์จะไม่ประสงค์แจ้งความ หรือไม่ให้การใดๆ ในกรณีที่ถูกทำร้าย แต่พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินคดีอาญากับอาสาสมัครรายนี้ได้

นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดจาก รพ.มหาวิทยาลัยบูรพาไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบกล้องตัวอื่นๆ ที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ชัดเจนกว่านี้ได้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เวรเปลของโรงพยาบาลให้ข้อมูลว่า ห้องฉุกเฉินที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 1 ของโรงพยาบาล ซึ่งภายในมีกล้องวงจรปิดไม่ต่ำกว่า 5 ตัว และมีภาพอีกมุมที่บริเวณหัวเตียง สามารถจับภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน โดยตำรวจได้ประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวไปตรวจสอบแล้ว