svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์ห่วงเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัวหลังจีนตอบโต้สหรัฐ

26 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พาณิชย์" เกาะติดประเด็นจีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯพุ่งเป้าไปที่กลุ่มสินค้าฐานเสียงของประธานาธิบดีสหรัฐทั้งถั่วเหลือง รถยนต์ และน้ำมันดิบ ห่วงความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงทำเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัว เร่งใช้วอร์รูมเฝ้าติดตามภาวะความเสี่ยงใกล้ชิด

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยถึงกรณีที่จีนประกาศปรับแผนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 5 10%รวม 5,078 รายการ มูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งมีแผนขึ้นภาษีรถยนต์ 25%และชิ้นส่วนยานยนต์ 5% ว่า การขึ้นภาษีของจีนครั้งนี้มีเป้าหมายไปที่รายการสินค้าต่างๆ อาทิ ถั่วเหลือง ฝ้าย เนื้อหมูและวัว น้ำมันดิบเครื่องจักรและอุปกรณ์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (โทรศัพท์มือถือ และเซมิคอนดัคเตอร์)อุปกรณ์การแพทย์ และเครื่องบินเล็ก เป็นต้น โดยสหรัฐฯประกาศตอบโต้ทันทีโดยเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าจีน1. สินค้ากลุ่ม 300,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 15% จากเดิม 10% บังคับใช้ 1 ก.ย. และ 15ธ.ค. 2562 และ 2. สินค้ากลุ่ม 250,000 ล้านดอลลาร์ ที่ขึ้นภาษีไปแล้ว เป็น 30% จากเดิม25% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562อีกทั้งสั่งการให้บริษัทเอกชนของสหรัฐฯ ถอนการลงทุนออกจากจีนทันที

ทั้งนี้ มาตรการของจีนค่อนข้างเฉพาะเจาะจงและมุ่งเป้าสินค้าที่เป็นฐานเสียงสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลป์ทรัมป์ เป็นหลัก เช่น ในแถบ Midwest และตอนใต้ที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรผู้ส่งออกถั่วเหลือง อีกทั้งสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐฯในตลาดจีน ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯรวมถึงน้ำมันดิบ โดยจีนยังเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบที่สำคัญของสหรัฐฯมีสัดส่วนประมาณ 6% ของการส่งออกต่อปี ตลอดจนอุตสาหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยี และเครื่องจักรของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม สนค. ได้ตรวจสอบรายละเอียดรายการสินค้าที่จีนขึ้นภาษีสหรัฐฯพบว่าสินค้าส่วนใหญ่จีนได้ใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐฯไปแล้วก่อนหน้านี้ในล๊อต 250,000ล้านดอลลาร์ ขณะที่มีสินค้าใหม่ประมาณ 2,000 รายการและพบว่าสินค้าไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งส่งออกทดแทนในหลายรายการ อาทิ ปลาแช่แข็งและแปรรูปผลิตภัณฑ์นมและครีม เครื่องจักรสาน เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรและส่วนประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนประกอบและอุปกรณ์ของยานยนต์ 

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า แม้การตอบโต้ครั้งล่าสุดระหว่างสหรัฐฯและจีน จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกไทย แต่ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นสร้างความวิตกกังวลว่า จะเร่งส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัวซึ่งก่อนหน้านี้ IMF ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกกำลังขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงและ IMF ได้ประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2562ไว้ที่ 3.2% (ล่าสุด ก.ค.62) ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 3.3%เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อีกทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจในจีนและเยอรมนีประเด็นเรื่อง Brexit ความตึงเครียดในฮ่องกงหรือการลาออกจากตำแหน่งผู้นำอิตาลีล้วนเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น ประเด็นค่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถทางการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยในตลาดที่สามค่าเงินหยวนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเรื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวันนี้(26 สิงหาคม 2562) ค่าเงินหยวนในประเทศซื้อขายในตลาดเอเชียร่วงลงมาอยู่ที่ 7.1487หยวนต่อ 1 ดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบกว่า 11 ปี นับตั้งแต่ต้นปี 2551 อย่างไรก็ตามคาดว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในแถบยุโรป และญี่ปุ่นและแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยในหลายอีกประเทศจะช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของปี

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวทิ้งท้าย ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าสหรัฐฯจะใช้มาตรการใดต่อไปความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลให้รูปแบบทางการค้าและการลงทุนเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่คิดไทยควรใช้โอกาสที่สหรัฐฯ ส่งสัญญาณชัดเจนให้บริษัทพิจารณาแหล่งผลิตอื่นๆกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและดึงดูดการลงทุนจากสหรัฐฯ รวมถึงประเทศอื่นๆที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากข้อพิพาททางการค้า ในส่วนของการส่งออกแม้ว่าการส่งออกจะชะลอตัวบ้างและจำเป็นจะต้องติดตามสถานกาณณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดแต่ก็ยังเห็นโอกาสในหลายจุด เช่น การส่งออกไปยังสหรัฐฯ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมายังคงขยายตัวถึง 16.3% แสดงให้เห็นว่าไทยยังมีสินค้าหลายรายการที่แข่งขันได้เราต้องใช้จุดแข็งแสวงหาโอกาสในการส่งออกเพิ่มขึ้นซึ่งการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ. พาณิชย์)เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับภาคเอกชนเตรียมมาตรการกระตุ้นการส่งออก การค้าชายแดนโดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีสัดส่วนต่อการส่งออกค่อนข้างสูงซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะนำสินค้าไทยแทรกเข้าไปในหลายๆ ตลาดเพื่อกระจายความเสี่ยงตลาดส่งออก ลดการพึ่งพาตลาดเดิม ตลอดจนการลดอุปสรรคทางการค้าเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจของภาคเอกชน

พร้อมกันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดตั้งทีมวอร์รูม (War Room) ติดตามสถานการณ์สงครามการค้าอย่างใกล้ชิดและเสนอแนวทางรับมืออย่างทันท่วงทีและเฝ้าระวังการนำเข้าในกลุ่มสินค้าสำคัญ ได้แก่ เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ฯอะลูมิเนียม เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า รองเท้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ เครื่องจักรไฟฟ้าฯ ทองแดง และเคมีภัณฑ์เพื่อป้องกันการสินค้าไหลเข้ามาไทยเป็นจำนวนมากจากมาตรการภาษีระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศและผู้บริโภครวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดการใช้ไทยเป็นแหล่งสวมสิทธิ์แหล่งกำเนิดสินค้าอีกด้วย

logoline