svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ออกกฎห้ามทวงหนี้เกินวันละ​ 1​ ครั้ง​ ช่วยบรรเทาปัญหาคนฆ่าตัวตาย​หนีหนี้

24 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรณีเจ้าหนี้รายย่อย ที่ให้เพื่อนยืมเงินไป หลักร้อยหลักพันหรือหลักหมื่นหลักแสนก็ตาม เรื่องนี้ไม่ต้องไปโทษคนอื่น เพราะจริงๆแล้ว ไม่ควรจะให้ยืมตั้งแต่แรก ถ้าไม่พร้อม เพราะคนเราเมื่อควักเงินให้เขายืมไปแล้ว มันต้องเผื่อใจ 50 50

สิ่งที่สะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ถึงขั้นวิกฤต โดยเฉพาะเวลานี้กับคนระดับกลางไปจนถึงล่าง ก็คือข่าวการฆ่าตัวตายเพื่อหนีภาระหนี้สินยกครัว นับเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง

ภาวะแบบนี้คนรวยอยู่แล้วไม่กระทบเท่าไหร่ แต่คนที่ทำธุรกิจ sme รายย่อยขนาดกลาง ไปจนถึงรากหญ้า เดือดร้อนอย่างหนัก ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาวะวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ทำให้ 'ความเหลื่อมล้ำ' ยิ่งถีบตัวสูงขึ้น

คนชนชั้นกลางไปจนถึงระดับล่าง มีปัญหา สภาพคล่องอย่างมาก เงินกู้ที่กู้มาลงทุนธุรกิจแบบรายย่อย สะสมเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว มิหนำซ้ำต้นทุนสูงมากขึ้น แต่รายได้เท่าเดิม ไม่มีเงินพอใช้หนี้ ถูกกดดันตามทวงหนี้ หาทางออกไม่ได้ สุดท้ายตัดสินใจจบชีวิต?

คนทยอยฆ่าตัวตายไม่ใช่ปัญหาเล็ก คำถามจากประชาชนคนทั่วไปตอนนี้จับตาไปที่การกระตุ้น หรือแก้ไขปัญหา 'เศรษฐกิจ' ของรัฐบาล

ในเวลานี้เราคงได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และประกันราคาพืชผลเกษตรหลายชนิด รวมถึงแจกเงินเที่ยว หรือแม้แต่ขยายเวลาปิดผับตี 4 แล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่งออกมาสดสดร้อน แม้ไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ถูกใจ 'ลูกหนี้' ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้มีสัดส่วนมากกว่า 'เจ้าหนี้' แน่นนอน นั่นคือการ ประกาศกฎการทวงหนี้ห้ามเกินวันละ 1 ครั้งเท่านั้น อาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติการทวงหนี้ ซึ่งเปิดทางไว้อยู่แล้ว

ถ้าต่อวันมีการทวงหนี้เพียงแค่ครั้งเดียว ก็อาจจะช่วยบรรเทาผลกระทบทางจิตใจของลูกหนี้ที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ได้บ้าง และอาจช่วยให้คนฆ่าตัวตายน้อยลง เพราะทำให้เสียสุขภาพจิตในเพียงแค่ครั้งเดียวต่อวัน ขอย้ำอีกครั้ง ว่า ช่วยในด้านจิตใจเท่านั้น แต่หลักการคือเป็นหนี้ต้องใช้หนี้

คนที่มีปัญหารุมเร้าอยู่แล้ว คงไม่อยากรับรู้อะไรมากมายในแต่ละวัน อย่างน้อยการคิดหาทางออกแก้ปัญหาด้วยตัวเองเงียบๆ โดยไม่ต้องมีใครมากดดันซ้ำซาก ก็อาจเจอแสงสว่าง ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตได้ด้วยสติปัญญา ก็เป็นได้

แต่น่าสังเกตว่าขณะที่มีข่าว เรื่องกฎการทวงหนี้ออกมา กระแสใน Social Media ส่วนมากก็จะเทไปทางที่ว่า "เข้าทางลูกหนี้จะไม่คืนเงิน"

สังเกตได้ว่าใต้โพสต์ข่าวคนฆ่าตัวตายหนีหนี้ ใน Social Media มีแต่เจ้าหนี้มาคอมเมนท์ประมาณว่า "ทวงวันละหลายๆครั้ง ยังไม่ได้เงินคืนมา" ในขณะที่ลูกหนี้มีไม่มาคอมเมนท์ ไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้ แต่พวกเขา ไม่รู้จะแสดงความเห็นอะไร เพราะเขาไม่มีคืนจริงๆ ส่วนคนที่คอมเมนท์อยู่ มีสถานะกึ่งเจ้าหนี้ที่เพื่อนฝูงหยิบยืมเงิน และลูกหนี้สินเชื่ออื่นๆ เหมือนกัน ไม่ใช้ว่าร่ำรวยอะไร แต่ลำบากพอๆกัน

กรณีเจ้าหนี้รายย่อย ที่ให้เพื่อนยืมเงินไป หลักร้อยหลักพันหรือหลักหมื่นหลักแสนก็ตาม เรื่องนี้ไม่ต้องไปโทษคนอื่น เพราะจริงๆแล้ว ไม่ควรจะให้ยืมตั้งแต่แรก ถ้าไม่พร้อม เพราะคนเราเมื่อควักเงินให้เขายืมไปแล้ว มันต้องเผื่อใจ 50 50

แต่ถ้าพูดถึงสถาบันการเงิน ที่ปล่อยกู้สินเชื่อต่างๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็ให้กู้ยากขึ้น ตรวจสอบรายรับ และประวัติการชำระหนี้ อย่างละเอียด ซึ่งในส่วนของธนาคารไม่น่าห่วง แม้จะมีกฎทวงหนี้ออกมา แต่คงไม่ทำให้ธนาคารติดตามหนี้ได้น้อยลง และจริงๆแล้วก็ไม่ต้องไปเห็นใจธนาคาร เพราะมีสายป่านยาวอยู่แล้ว

เพราะแต่ละธนาคารมีเก่งๆที่คิดวิเคราะหฺได้ว่าควรจะปล่อยกู้เท่าไหร่หรือควรจะไม่ปล่อย หรือแบกความเสี่ยงได้ที่เท่าไหร่ แตืสิ่งที่ควรห่วงที่สุดคือ "ตัวเอง" ท่ามกลางสภาพแบบนี้ "ถ้าไม่พร้อม.. อย่าไปให้ใครยืมเงินเด็ดขาด"

การจบชีวิตเพื่อหนีปัญหานั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ฉาบฉวย ซึ่งถ้าหากรู้ความจริงว่าโลกใบนี้ ต่อในเลวร้ายแค่ไหน ทุกปัญหาก็ยังมีทางออกอยู่เสมอ ในเมื่อวันพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว อย่าให้วินาทีสุดท้ายต้องรู้สึกเสียดายชีวิต เพราะแท้จริงชีวิตงดงามเสมอไม่ว่าจะเจอปัญหาใดๆ

#วชิรวิทย์ #วชิรวิทย์รายวัน #VAJIRAVIT #VajiravitDialy #Nation #NationTV

logoline