svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ยอดส่งออกทุเรียนไทย6เดือนพุ่ง45%

23 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พาณิชย์" ระบุ เอฟทีเอช่วยดันส่งออกทุเรียนยอด 6 เดือนทะลุ 817 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 45% จีนโตแรงถึง 70% อาเซียน 19% รวมสองตลาดมีสัดส่วนสูงถึง 79% ของยอดส่งออกรวม ดันไทยขึ้นแท่นส่งออกทุเรียนเบอร์หนึ่งของโลก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯได้ติดตามผลการส่งออกทุเรียนไทยไปตลาดโลกในช่วง 6 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-มิ.ย.)พบว่า ทุเรียนยังคงเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด  มีสัดส่วนการส่งออกทุเรียนสด คิดเป็น 44%ของการส่งออกผลไม้ทั้งหมด และมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 817 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น45% โดยมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ จีนและอาเซียน โดยส่งออกไปจีนมูลค่า 425 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 70% อาเซียน มูลค่า 219 ล้านดอลลาร์  เพิ่มขึ้น 19%ทำให้ในปัจจุบันไทยครองแชมป์ผู้ส่งออกทุเรียนได้เป็นอันดับที่ 1 ของโลกนำหน้าฮ่องกงและมาเลเซียกว่าเท่าตัว

"ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ)ได้มีส่วนส่งเสริมให้การส่งออกทุเรียนของไทยเติบโตเพราะช่วยขจัดอุปสรรคภาษีนำเข้าในประเทศคู่ค้า ทำให้ทุเรียนไทยได้แต้มต่อจึงมีโอกาสในการส่งออกและแข่งขันมากขึ้นโดยปัจจุบันทุเรียนไทยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าใน 16 ประเทศคู่ค้าที่ไทยมีเอฟทีเอด้วยได้แก่ จีน ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซียสปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ บรูไน อินเดีย ชิลี และเปรู เหลือเพียง 2ประเทศ คือ มาเลเซียและเกาหลีใต้ ที่ยังเก็บภาษีนำเข้าทุเรียนจากไทยแต่ได้ปรับลดอัตราภาษีลง โดยมาเลเซียเก็บที่ 5% เกาหลีใต้ปรับภาษีนำเข้าลงจาก 45%เหลือ 36% แล้ว"



ทั้งนี้ การส่งออกทุเรียนที่เพิ่มขึ้นยังสอดคล้องกับสถิติการใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเอในการส่งออก โดยพบว่าทุเรียนเป็นสินค้าที่ผู้ประกอบการขอใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกสูงมากเป็นอันดับต้นโดยเฉพาะในการส่งออกไปจีนและอาเซียน ที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยและมีสัดส่วนการส่งออกทุเรียนไปยังสองตลาดนี้ คิดเป็น 79%ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดของไทย



อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบการส่งออกทุเรียนของไทยไปจีนในปี 2561 กับปี 2545ซึ่งเป็นปีก่อนหน้าที่จีนยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าทุเรียนจากไทยภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีนพบว่า มูลค่าเพิ่มขึ้นจากไม่มีการส่งออกเลยเป็น 418.4 ล้านดอลลาร์  เพิ่มขึ้น 41,840%และส่งออกไปอาเซียนเพิ่มขึ้นจากปี 2535ซึ่งเป็นปีก่อนที่อาเซียนจะลดภาษีนำเข้าทุเรียนภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนมีมูลค่าเพิ่มจาก 3.7 ล้านดอลลาร์  เป็น315.1 ล้านดอลลาร์ ในปี 2561 เพิ่มขึ้น 8,416%



ปัจจุบันผู้บริโภคได้หันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้นทำให้การค้าผลไม้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากผลไม้สดแล้วคาดการณ์ว่าตลาดผลไม้แปรรูปในลักษณะขนมขบเคี้ยว จะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นกันจึงเป็นโอกาสทองที่เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยจะเพิ่มรูปแบบสินค้าส่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ทุเรียนแปรรูปเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

 


"เพื่อให้สินค้าทุเรียนของไทยครองความเป็นหนึ่งในตลาดได้อย่างยั่งยืนเกษตรกรและผู้ประกอบการควรรักษามาตรฐานสินค้าและพัฒนาคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเพาะปลูก การบรรจุหีบห่อ และมีใบรับรองสุขอนามัยพืชรวมทั้งควรลดการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงเนื่องจากปัจจุบันตลาดในหลายประเทศมีความเข้มงวด ประกอบกับผู้บริโภคนิยมผลไม้ปลอดสารพิษหรือเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น"

logoline