จากข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุว่า ในปี 2560 ประชากรพะยูนของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการสำรวจพบว่าจำนวนพะยูนเพิ่มเป็น 169 ตัว ต่อมาเมื่อเดือน ก.พ. 2561
ได้มีการสำรวจประชากรพะยูนในทะเลตรังอีกครั้ง พบว่ามีพะยูนคู่แม่ลูกถึง 42 คู่ และมีข้อมูลยืนยันว่ามีพะยูนมากกว่า 210 ตัว ถือเป็นสัญญาณที่ดีในขณะนั้น เพราะถ้าหากย้อนไปเมื่อปี 2556 พะยูนในทะเลตรังมีเพียง 110-125 ตัวเท่านั้น
ซึ่งขณะนั้นมีการคาดการณ์ว่าหากปล่อยให้พะยูนตายจากเครื่องมือประมงปีละ 12 ตัว พะยูนจะสูญพันธุ์ไปจากทะเลตรังภายใน 16 ปี
กระทั่งปีล่าสุด 2562 เราได้รับรู้ข่าวพะยูนเกยตื้นตายบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งถ้าไม่นับรวมเจ้ามาเรียมกับเจ้ายามีลแล้ว มีพะยูนตายไปแล้ว 9 ตัว ทว่าปัญหาหลักคือ พะยูนกินขยะพลาสติกเข้าไปสะสมในร่างกายจนทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและตายในที่สุด และจากการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างหญ้าทะเลของเจ้าหน้าที่ ทช.
เมื่อไม่นานมานี้ พบขยะพลาสติกจำนวนมากฝังดินอยู่ใกล้ๆ กับแหล่งหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวของพะยูน และถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป ขยะพลาสติกยังคงถูกทิ้งลงทะเล อนาคตของพะยูนไทยคงอยู่ในภาวะอันตรายสูงสุด
พะยูน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีอัตราการสืบพันธุ์ช้าและให้ลูกน้อย โดย พะยูน 1 ตัวจะให้ลูกประมาณ 10 ตัว แต่ละครั้งใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 13-14 เดือน และยังใช้เวลาเลี้ยงลูกนานถึง 2 ปี พะยูนจึงทิ้งช่วง การตั้งท้องครั้งหนึ่งราว 3-7 ปี ทำให้ประชากรพะยูนเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ง่ายกว่าสัตว์ทะเลประเภทอื่น