svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์ดัน YEN-D ลุยเมียนมา สร้างการค้าทันที 260 ล้านบาท

22 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมการค้าต่างประเทศ ตอกย้ำความสำเร็จ YEN-D นำนักธุรกิจไทยบุกตลาดเมียนมา เจรจาจับคู่ธุรกิจกว่า 60 คู่ สร้างมูลค่าการค้าการลงทุนทันทีกว่า 260 ล้านบาท และยังคาดว่าจะสร้างมูลค่าการค้าได้มากกว่า 500 ล้านบาท ภายในปี 2563

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมฯ ได้จัดโครงการ YEN-D Frontier รุ่น LIMEC (ไทย เมียนมา สปป.ลาว)เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี กรมฯจึงสานต่อโดยการจัดงาน "Business MatchingSeries 2019" ณ โรงแรม Sedona กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2562 ซึ่งได้นำผู้ประกอบการ YEN-D ของไทยและเมียนมารวมทั้งเครือข่ายกลุ่มธุรกิจอื่นๆของไทยในเมียนมา เช่น สมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมา(ThaiBusiness Association of Myanmar TBAM) เข้าร่วมงาน ซึ่งภายในงานมีการจัดประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางการค้า กิจกรรมส่งเสริมการค้าการลงทุนโดยสมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมาและมีการจับคู่ธุรกิจ (BusinessMatching) ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยมีการจับคู่ธุรกิจมากกว่า 60 คู่ สำหรับธุรกิจที่มีการทำการซื้อขายมากที่สุด ได้แก่ เครื่องจักรอุปกรณ์ทางการเกษตร แพ็คเกจจิ้ง และอุตสาหกรรมอาหารก่อให้เกิดตัวเลขในการซื้อขายกันทันทีมูลค่ากว่า 260 ล้านบาทและคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท ภายในปี 2563
นายอดุลย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมและเจรจาส่งเสริมการค้าในประเทศเมียนมาแล้วยังจะมีการส่งเสริมทางการค้าเพื่อสร้างขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยในระดับภูมิภาคอีกทั้งจะมีการผลักดันให้นักธุรกิจของไทยสามารถขยายการค้าการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการจัดงาน "BusinessMatching Series 2019" ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียและกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ภายในเดือนกันยายนนี้
ทั้งนี้ ถือเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์และต่อยอดธุรกิจระหว่างกันของผู้ประกอบการ YEN-D ไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นภายใต้กรอบความร่วมมือ IMT-GT การพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย (IMT GT) ในการใช้ทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่มีร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดในภูมิภาคเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าต่างประเทศในการสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพให้กับภาคเอกชนของไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและการลงทุนในระดับภูมิภาคเพื่อเป็นกลไกช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าในภาพรวมของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศที่มีความสัมพันธ์กับไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ประชากรมีกำลังซื้อและรายได้ต่อหัวสูงและสถานการณ์ทางการเมืองมีเสถียรภาพมั่นคง
สำหรับโครงการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program : YEN-D Program) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558ตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี(พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา)โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของประเทศเพื่อนบ้านมาพบเจอกันเพื่อทำความรู้จักจนเกิดความสนิทสนมและนำมาซึ่งการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจโดยโครงการ YEN-D เน้นการสร้างเครือข่ายให้แก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เป็นหลัก ส่วนการเป็นคู่ค้าทางธุรกิจนั้นถือเป็นผลพลอยได้ที่ได้จากความสัมพันธ์ ภายใต้แนวคิดของโครงการที่ว่า "ความสัมพันธ์แบบเพื่อนมาก่อนแล้วธุรกิจจะตามมาเอง
ที่ผ่านมาโครงการ YEN-D ได้ดำเนินการมาเป็นปีที่5 ตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบัน ครอบคลุมตั้งแต่ โครงการ YEN-D Program ที่สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยและประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV ได้แก่ สปป.ลาว เมียนมากัมพูชา เวียดนาม จนประสบผลสำเร็จ จึงมีการผลักดันให้เกิดการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในพื้นที่แนวชายแดนภายใต้โครงการ YEN-D Frontier (โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน) และในปี 2562 กรมฯได้ต่อยอดความสำเร็จสู่โครงการ YEN-DPlus ที่ขยายตลาดนอกประเทศ CLMV ไปสู่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ผ่านหลักสูตรและเข้าร่วมเป็นเครือข่าย YEN-D ทั้งสิ้นกว่า 1,400 ราย และมีการเจรจาธุรกิจ การซื้อขายการค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท และในปี 2563 กรมฯยังเดินหน้าผลักดันการค้าชายแดนผ่านโครงการ YEN-D อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ YEN-DPlus (อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย) YEN-D Frontier และ YEN-D Reunion เป็นต้นเพื่อมุ่งสร้างความร่วมมือทางการค้าการลงทุนและเป็นสะพานเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนและกลุ่มประเทศเอเชียใต้ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นต่อไป

logoline