ภัยแล้ง-จีนแห่ซื้อ 'ข้าวเหนียว' ราคาพุ่ง 75%
ข้าวเหนียวราคาพุ่งเป็นกระสอบละ 2,100 บาท จากเดิม 1,200 บาท ข้าวเหนียวนึ่ง 5 บาท ขายไม่ได้แล้ว สร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคที่ต้องจ่ายแพงขึ้น เหตุภัยแล้งทำให้ผลผลิตลดลง ขณะที่จีนเข้ามากว้านซื้อ แต่ในทางกลับกัน ชาวนาบัวใหญ่ครวญข้าวหมดยุ้งฉาง ต้องซื้อข้าวสารบรรจุถุงหุงกิน
ตลาดสดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ราคาข้าวเหนียวปรับขึ้นเป็นรายวัน ข้าวเหนียวเขี้ยวงู จากเดิมกระสอบละ 1,200 บาท เป็น 2,100 บาท สาเหตุเชื่อว่าผลกระทบจากภาวะภัยแล้งไม่มีน้ำมาทำข้าวนาปรัง ทำให้ข้าวเหนียวราคาสูงขึ้น และอีกสาเหตุมาจากประเทศจีนเข้ามาซื้อข้าวเหนียวในประเทศไทยไปขายเป็นจำนวนมาก ทำให้ข้าวเหนียวราคาสูงขึ้นเช่นกัน
นางสมพร บุญเกิด แม่ค้าขายข้าวเหนียว เล่าว่า ข้าวเหนียวสุกขายขั้นต่ำที่ราคา 10 บาท จากที่แต่ก่อนขาย 5 บาทได้ ตอนนี้ 5 บาทขายไม่ได้แล้ว ซึ่งแต่ก่อนข้าวสารเหนียว ขายกระสอบละ 1,200 บาท ตอนนี้ขึ้นมาเป็นกระสอบละ 2,100 บาท และยังรอดูว่าราคาจะขึ้นไปอีกเท่าไหร่ เพราะราคาข้าวเหนียวขึ้นเป็นรายวัน ราคายังไม่อยู่ตัวเลย อีกทั้งข้าวสารเหนียวประเทศจีนส่งขายออกนอกเหมือนกัน
จึงได้เข้ามากวาดซื้อข้าวสารเหนียวที่ประเทศไทยไปขาย เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ข้าวเหนียวมีราคาสูงขึ้น อีกทั้งยังมีผลกระทบจากภัยแล้งที่ฝนไม่ตก ทำให้ชาวนาไม่มีน้ำทำข้าวนาปรังด้วย
ขณะที่จังหวัดนครราชสีมา หนึ่งในจังหวัดที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงนานติดต่อกันหลายเดือน ทำให้หลายพื้นที่ประสบกับปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ภาพที่หลายคนไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นในปีนี้ก็ได้ปรากฏให้ได้เห็น คือการที่อาชีพชาวนาผู้ผลิตข้าวหล่อเลี้ยงประเทศไทยมานานหลายชั่วอายุคน ต้องเจียดเงินซื้อข้าวสารบรรจุถุงมาหุงรับประทานเนื่องจากข้าวในยุ้งฉางนำไปใช้ในการเพาะปลูกข้าวนาปีจนหมด แล้วยังมาถูกผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งเล่นงานทำให้ข้าวยืนต้นตาย
จากการลงพื้นที่สอบถามนางดวงใจ ทองพันธ์ เกษตรกรชาวนาบ้านดอนกุดตะโพธิ์ ตำบลดอนตะหนิน อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในพื้นที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งนานติดต่อกันหลายเดือนตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้ข้าวนาปีไม่สามารถให้ผลผลิตได้ 2 ปีติดต่อกัน
ทำให้ข้าวเปลือกที่ปกติจะเก็บไว้เต็มยุงฉางเมื่อต้องนำพันธุ์ข้าวไปหว่านและนำมาสีรับประทานเมื่อนานวันเข้าข้าวเปลือกก็ร่อยหรอจนหมด ต้องใช้บัตรประชารัฐไปกดซื้อเฉพาะข้าวสารอย่างเดียวทุกเดือนเพื่อใช้หุงรับประทาน ก็ไม่เคยคาดคิดว่าจากชาวนาที่ปลูกข้าว มีข้าวกินไม่เคยขาด ต้องมาซื้อข้าวบรรจุถุงรับประทานเพราะปัญหาความแห้งแล้ง
ขณะที่คุณพ่อคูณ ไข่กระโทก บอกว่า ตั้งแต่ทำอาชีพชาวนามามากกว่า 70 ปี ก็เพิ่งจะมีปีนี้เป็นปีแรกที่ฝนไม่ตกไม่มีน้ำทำนาเลย ถ้าฝนตกมาในเร็ววันนี้ อาจจะพอมีหวังได้พันธุ์ข้าวไว้ปลูกในฤดูเพาะปลูกปีหน้าได้บ้าง ซึ่งซ้ำรอยกับภัยแล้งในปีที่ผ่านมา
ส่วนข้าวสำหรับหุงรับประทานก็ต้องอาศัยการซื้อสารบรรจุถุงเช่นกัน ปัญหาสำคัญอยากวอนให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรคือการจัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าว เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรมีอยู่ใช้ในการหว่านไปจนหมดแล้ว พอมาเจอปัญหาภัยแล้งทำให้ต้นข้าวยืนต้นตายไม่สามารถให้ผลผลิตเพื่อนำไปเก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ได้อีก