จับสาวเมียนมา ลอบขายบุฟเฟ่ต์น้ำ"กระท่อม"

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต สามารถจับกุมนางมาซอ ชาวเมียนมา ที่เปิดร้านขายข้าวแกงบังหน้า บริเวณถนนนาใน อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต แต่ขณะเดียวกันด้านหลังร้านได้ขายน้ำกระท่อมในกับลูกค้าในละแวกนั้นแบบบุปเฟ่ด้วย
จากการเข้าตรวจค้นพบนางมาซอ และลูกค้าจำนวน7ราย พร้อมกับของกลางใบกระท่อมสด 2,275 ใบ น้ำกระท่อมบรรจุถุงพร้อมดื่มจำนวน 40 ถุงน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมบรรจุขวด ถุงและหลอดพสาสติกพร้อมอุปกรณ์สำหรับบรรจุแบ่งขาย โดยลูกค้าจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว 300-500 บาทสามารถกินได้ไม่อั้น หากต้องการซื้อกลับบ้านคิดน้ำถุงละ 100 บาท ใบสดมัดละ 100 บาท
ด้านพ.ต.ท.คธาธร คำเที่ยง ผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะจับกุมนางมาซอให้การปฎิเสธอ้างเพียงเป็นผู้ดูแลร้าน แต่เนื่องจากมีหลักฐานในตอนนั้นที่ลูกค้า 7 รายกำลังร่วมปาร์ตี้ใบกระท่อมอยู่ ทำให้นางมาซอจำนนต่อหลักฐาน และจากการสอบสวนทราบว่านางมา ซอขายข้าวแกงมา 3-4 เดือนแล้ว โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่โดยรอบซึ่งเป็นแคมป์คนงาน
สำหรับนางมาซอและลูกค้า7ราย จากการตรวจสอบพบว่า เข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ตำรวจจึงดำเนินคดีในความผิดเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนางมาซอแจ้งเพิ่มในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบกระท่อม) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ยังได้ ทำการจับกุม นายโคอัสซี่ (Mr.Kouassi) อายุ 33 ปี สัญชาติ ไอวอรี่ โคสต์ ในความผิดฐาน " มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครองครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยผิดกฎหมาย และเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ " ได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ซ.อนามัย ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง โคเคน บรรจุถุงพลาสติก พันด้วยเทปสีดำ น้ำหนักประมาณ 1 กรัม เนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบทราบว่า มีคนต่างด้าวผิวสี มีพฤติกรรมจำหน่ายโคเคน บริเวณย่านสถานบันเทิงในพื้นที่ ต.ป่าตอง จึงได้ทำการวางแผนให้สายลับทำการล่อซื้อยาเสพติด จนกระทั่งสามารถจับกุมได้ในเวลาต่อมา โดยจากการสืบสวนขยายผล ทำให้ทราบว่า ผู้ถูกจับมีพฤติกรรมจำหน่ายโคเคนให้กับทั้งคนไทยและคนต่างชาติในพื้นที่ และคาดว่ามีกลุ่มเครือข่ายโดยมีทั้งคนไทย และคนต่างชาติผิวสีเกี่ยวข้องด้วย ซึ่ง ตม.จว.ภูเก็ต จะได้ทำการสืบสวนขยายผลและทำการปราบปรามจับกุมต่อไป