ผู้นำเกาหลีใต้ยอมถอย วอนญี่ปุ่นให้คิดถึงอดีตที่ทำกับเพื่อนบ้าน

ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน กล่าวสุนทรพจน์เนื่องใน "วันแห่งการปลดปล่อยเกาหลี" ว่า เราหวังว่าญี่ปุ่นจะมีบทบาทนำร่วมกับเกาหลีใต้ในการทำให้สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองเกิดขึ้นได้ในเอเชียตะวันออก ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ควรใคร่ครวญอดีตที่ผ่านมาที่เคยนำพาความทุกข์ยากมาสู่ประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมย้ำว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่ญี่ปุ่นจะเลือกหนทางแห่งการเจรจาและความร่วมมือ และหากญี่ปุ่นเลือกเส้นทางนั้น เกาหลีใต้ก็ยินดีที่จะจับมือกับญี่ปุ่น

ถ้อยแถลงล่าสุดของผู้นำเกาหลีใต้ถือว่าลดความแข็งกร้าวลงจากคราวก่อนอย่างมาก ซึ่งเขาเคยพูดว่าเกาหลีใต้จะไม่พ่ายแพ้ให้กับญี่ปุ่นอีก โดยในสุนทรพจน์ความยาวเกือบครึ่งชั่วโมงที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศนี้ มุนได้เอ่ยคำว่า "ความร่วมมือ" และ "ความเจริญรุ่งเรือง" เกือบ 20 ครั้ง อย่างไรก็ตาม วันนี้มีประชาชนชาวเกาหลีใต้ราว 2 พันคนรวมตัวกันในกรุงโซลและเคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตญี่ปุ่น เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นขอโทษด้วยความจริงใจและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เคยทำไว้สมัยสงคราม

ด้านนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ได้ร่วมพิธีเชิดชูทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตจากสงคราม โดยกล่าวว่า บทเรียนจากประวัติศาสตร์ยังคงฝังลึกอยู่ในหัวใจของชาวญี่ปุ่นมาจนทุกวันนี้ ญี่ปุ่นจะไม่ก่อให้เกิดการทำลายล้างอีก และจะสร้างยุคใหม่ที่มีแต่สันติสุขและความหวังด้วยความร่วมมือกับประชาคมโลก แต่ในขณะเดียวกันอาเบะยังคงส่งเครื่องสักการะไปยังศาลเจ้ายาสุกุนิ ซึ่งถูกมองเป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้งในปีนี้ ทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้ออกมาประท้วงแล้ว

ขณะที่สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะของญี่ปุ่นซึ่งเพิ่งเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตรัสแสดงความเสียพระราชหฤทัยอย่างสุดซึ้งต่อการกระทำของญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลก และทรงภาวนาให้โลกนี้มีสันติภาพ นับเป็นพระราชดำรัสในลักษณะเดียวกับสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระบิดา