svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ประหยัด" สู้ ป.ป.ช.สอบไม่เป็นธรรม

15 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ประหยัด" แถลงซัด "ป.ป.ช." กลั่นแกล้ง ไม่ให้ความเป็นธรรม ปม ชี้มูล ปกปิด ทรัพย์สิน 227 ล้าน ยัน เมีย ถือกรรมสิทธิ์แทน ห้องชุดหรู ใน "ลอนดอน" วอน สภา ตั้งไต่สวน ป.ป.ช.ทั้งคณะ ชี้ช่อง ล่า 2หมื่นชื่อ ถอดถอน

วันที่ 15 ส.ค.62 เวลา 18.00 น. ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน มูลค่ากว่า 227 ล้านบาทว่า ข้อเท็จจริงกรณีนี้เกิดขึ้นในช่วงยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งแรกเมื่อปี 60 โดยเข้าใจเรื่องบัญชีทรัพย์สินคลาดเคลื่อนของภรรยา นึกว่าบัญชีเงินฝากปิดไปแล้ว แต่ยังมีการเปิดใช้งานอยู่ พอทราบทีหลังตนบริสุทธิ์ใจ จึงได้ยื่นทรัพย์สินเพิ่มเติมเป็นเงินฝาก 3 บัญชี รวมถึงเรื่องเช่าซื้อห้องชุดที่อังกฤษ ที่ภรรยาทำธุรกิจร่วมกับบุคคลอื่น และถือครองกรรมสิทธิ์แทน โดยไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งเหล่านี้ และชี้แจงไปแล้วอย่างบริสุทธิ์ใจ 


นายประหยัด กล่าวว่า การดำเนินคดีดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้ง และดำเนินการไม่ชอบหลายประการ ไม่ให้ความเป็นธรรม และไม่เคยให้โอกาสเข้าชี้แจงด้วยวาจาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งที่ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง โดยการไต่สวนไม่ชอบตามกฎหมาย และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 ที่ต้องพิสูจน์เจตนาและการดำเนินการกับข้าราชการ ป.ป.ช.


"ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคดีผมพาดพิงกับบางสิ่งบางอย่าง คดีเหล่านั้นที่ยังไม่มีข้อยุติ มีปัญหาคาราคาซัง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของผมได้อย่างไร กระบวนการไต่สวนต้องแยกการไต่สวนในแต่ละเรื่อง แต่เรื่องนี้การไต่สวนไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 และ 236 และไม่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 114 เมื่อผมชี้แจงว่าภรรยาถือครองทรัพย์สิน ไม่ต้องยื่นด้วยซ้ำ พิสูจน์สิว่าทรัพย์สินที่ถือครองเป็นของภรรยาจริง หรือลงทุนจริง ถ้าไม่ใช่ค่อยมาว่าผม" นายประหยัด กล่าว


นายประหยัด กล่าวว่า ปัจจุบันยื่นฟ้องนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ความคืบหน้าปัจจุบันอยู่ระหว่างการแก้คำฟ้อง ทั้งนี้ ในส่วนของคดีตนที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีนี้ ตามกฎหมายบอกว่าต้องส่งให้อัยการพิจารณา ยังมีโอกาสขอความเป็นธรรมต่อทนายแผ่นดิน พิสูจน์เจตนาว่าขั้นตอนการไต่สวนเป็นไปโดยชอบหรือไม่ ตนไม่ใช่คนทุจริต เรื่องนี้เป็นเรื่องข้อบกพร่อง ความเข้าใจคลาดเคลื่อนของภรรยา ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ การนำสืบต่างๆ เป็นตัวภรรยาที่หลงลืม ไม่ใช่ตนหลงลืม การที่ภรรยาสำคัญผิด ย่อมเกิดขึ้นได้ ยืนยันเป็นการยื่นทรัพย์สินครบถ้วนทุกขั้นตอน

          นายประหยัด กล่าวอีกว่า ขอฝากสื่อมวลชน องค์กรยุติธรรมต่าง ๆ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือการถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. ฝากเรียนไปยังพรรคการเมือง หรือ ส.ส. พรรคต่าง ๆ ถ้าเห็นว่าประเด็นตนมีข้อไม่เป็นธรรม ควรหยิบยกไปไต่สวนในสภา ขอเชิญมาบอกกับตนได้ จำนวนสมาชิก 125 เสียงเพื่อยื่นเรื่องต่อประธานสภา ไต่สวนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะ หรือประชาชน 2 หมื่นรายเข้าชื่อถอดถอนในประเด็นการดำเนินการที่มิชอบได้ ตนยินดีให้ความร่วมมือในกระบวนการว่าถูกต้องหรือไม่

          เมื่อถามว่า คดีนี้มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีบริษัทเครือ ปตท. ลงทุนปลูกปาล์มที่อินโดนีเซีย นายประหยัด กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นนานมาก ตนไม่เคยยุ่งเลย เคยไปอินโดนีเซียแค่ครั้งเดียวกับนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. โดยไปศึกษาดูงาน ไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ ปตท. และภรรยาตนไม่เคยไปอินโดนีเซีย ไม่เคยรู้จักเหมือนกัน แต่เห็นว่าเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน มีการเชื่อมโยง คิดเอาเองทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่มีการพิสูจน์ ต้องพิสูจน์ให้ชัดก่อน

          เมื่อถามว่า มูลเหตุที่ทำให้เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันคืออะไร นายประหยัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมกับนายวรวิทย์ แต่เมื่อนายวรวิทย์เป็นเลขาฯ ตนได้เป็นรองเลขาฯ และถูกลดบทบาทในการทำงาน บางครั้งต้องรักษาการรองเลขาฯ และสุ่มเสี่ยงถูกประเมินผลงานให้ถูกออกจากราชการ.

logoline