ม็อบฮ่องกงยอมขอโทษแล้ว ขณะที่จีนประณามเป็น "ผู้ก่อการร้าย"

ซู่ ลู่อิง โฆษกสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของรัฐบาลจีน เผยแพร่แถลงการณ์ทางเวบไซต์ใมีเนื้อหาแสดงความโกรธแค้นและประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่ผู้ประท้วงฮ่องกงปิดสนามบิน และทำร้ายพลเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ 2 คนระหว่างการชุมนุมในสนามบินเป็นวันที่ 5 เมื่อวานนี้ โดยแถลงการณ์ระบุว่า ผู้ก่อจลาจลรุนแรงได้ละเมิดพื้นฐานของกฎหมาย ศีลธรรมและมนุษยธรรม พฤติกรรมของพวกเขาเป็นการดูหมิ่นกฎหมายอย่างร้ายแรงและทำลายภาพลักษณ์ของฮ่องกงต่อนานาชาติอย่างมาก อาชญากรรมเช่นนี้สมควรถูกลงโทษรุนแรงตามกฎหมาย
นอกจากนี้สำนักงานประสานงานของจีนในฮ่องกง ออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงกว่า โดยฉบับหนึ่งระบุว่า การกระทำของผู้ประท้วงไม่ต่างจากการก่อความรุนแรงโดยฝีมือผู้ก่อการร้าย และอีกฉบับบอกว่า ผู้ประท้วงได้กระชากหน้ากากที่ใช้พรางตัวเป็นผู้ชุมนุมอย่างสันติแล้วเมื่อคืนวานนี้ ชายชาวจีน 2 คนถูกทำร้ายและถูกกักตัวโดยผู้ประท้วง เพราะต้องสงสัยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปลอมตัวมา ซึ่งต่อมาหนึ่งในนั้นได้รับยืนยันว่าเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลปักกิ่ง

ขณะเดียวกันบทความในหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เรียกร้องให้ใช้กฎหมายลงดาบเพื่อยับยั้งความรุนแรงและฟื้นคืนความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและภารกิจเร่งด่วนของฮ่องกง ขณะที่บทความในหนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ระบุว่า รัฐบาลปักกิ่งควรจัดการกับปัญหาฮ่องกงอย่างเด็ดขาดมากกว่านี้ แต่ยังไม่มีสื่อฉบับไหนสนับสนุนให้ใช้กำลังทหารเข้ากำราบผู้ประท้วง

ล่าสุดตัวแทนกลุ่มผู้ประท้วง โพสต์แถลงการณ์และภาพโปสเตอร์ขอโทษผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งได้รับการแชร์อย่างกว้างขวาง ขอโทษต่อผู้โดยสาร หน่วยฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่สนามบินสำหรับความไม่สะดวกสบายจากการชุมนุม พร้อมกับชี้แจงว่า เหตุผลที่เลือกชุมนุมที่สนามบินเพราะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ยังยอมรับว่า ผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมก้าวร้าวและทำเกินกว่าเหตุ และสัญญาว่าจะเรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งนี้ แต่ไม่พูดถึงกรณีการทำร้ายชาวจีน 2 คน โดยโจชัว หว่องนักเคลื่อนไหวคนสำคัญก็ได้ออกมาโพสต์ขอโทษด้วย