หนึ่งในนโยบายสำคัญของงรัฐบาล คือการเดินหน้าแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม พร้อมทั้งกำชับทุกหน่วยงานเดินหน้านโยบายไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับ กรมธนารักษ์ ในสังกัดกระกรวงการคลัง ที่เดินหน้าโครงการ "ธนารักษ์ประชารัฐ"นำที่ราชพัสดุมาร่วมแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของราษฎร เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยขณะนี้มีการทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแจกให้ประชาชนที่เคยบุกรุกมีสิทธิเช่าอย่างถูกกฏหมาย เริ่มต้นค่าเช่าที่อยู่อาศัยตารางวาละ25สตางค์/เดือน ค่าเช่าพื้นที่เกษตรเริ่มต้นไร่ละ200บ./ปี ต่อสัญญาทุก3ปี
พร้อมกันนี้เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เช่าที่ราชพัสดุให้ได้รับการยกเว้นค่าเช่าฟรี หรือช่วยเหลือค่าค้างชำระ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ค้างชำระค่าเช่าที่ราชพัสดุ2,457ราย จากผู้มีรายได้น้อยที่ทำสัญญาเช่ากับกรม 26,951ราย
ขณะที่โครงการบ้านคนไทยประชารัฐบนที่ดินราชพัสดุครอบคลุมพื้นที่ 4 ภาคทั่วประเทศ และมีการเปิดจองแล้ว4จังหวัดคือ ประจวบคีรีขัน เชียงใหม่ เชียงรายและชลบุรีนั้น อธิบดีกรมธนารักษ์ อำนวย ปรีมนวงศ์ เผยว่า ประชาชนให้ความสนใจมาก เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยราคาบ้านอยู่ที่หลังละ 350,000-700,000 บาท แต่ก็ยอมรับในการขอสินเชื่อบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยนั้น ถือว่าเป็นอุปสรรคพอสมควร ดังนั้นจึงได้หารือกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการผ่อนปรนหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับผู้มีรายได้น้อย รวมถึงหาบ้านที่ไม่จำกัดเฉพาะในพื้นที่ราชพัสดุให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
ปัจจุบันโครงการบ้านคนไทยประชารัฐได้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว 1 แห่ง บนที่ราชพัสดุแปลง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนการดำเนินการในเฟส 2 จะเริ่มทำประชาพิจารณ์ความต้องการในปี 2563 และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปีถัดไป ในพื้นที่ราชพัสดุ 8 จังหวัด เช่น กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา สงขลา ศรีษะเกษ
นอกจากนี้กรมธนารักษ์ ยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่ราชพัสดุเป็นที่พักผู้สูงอายุ รองรับสังคมผู้สูงอายุในประเทศ อาทิ จ.ชลบุรี / สมุทรปราการ /ประจวบคีรีขันธ์ /เชียงราย/นครนายก รวมถึงเตรียมนำอาคารหรือบ้านเก่าบนพื้นที่ราชพัสดุ ที่ยังมีลักษณะอนุรักษ์ มีคุณค่าทางราชการ สถาปัตยกรรม มาพัฒนาปรับปรุงใหม่ให้ใช้ประโยชน์ได้ จากการสำรวจเบื้องต้นพบมีอาคาร บ้านเก่าลักษณะดังกล่าวทั่วประเทศประมาณ 200 หลัง ค่ะ
ปิยภัทร ฤกษ์อาษา ถ่ายภาพ กรรณิการ์ รุ่งกิจเจริญกุล เนชั่นทีวี รายงาน