svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

เชียงใหม่มั่นใจน้ำเพียงพอผ่านภัยแล้ง

10 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชลประทานเชียงใหม่ มั่นใจน้ำในเขื่อนเพียงพอหล่อเลี้ยงเมือง คาดหลังสิ้นสุดฤดูฝนปริมาณน้ำในเขื่อนมีมากกว่าปี 2558 ที่เกิดวิกฤติภัยแล้งแน่นอน ห่วงพื้นที่เกษตรนอกเขตชลประทาน หากไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวหามาตรการช่วยเหลือ

นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการชลประทานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดว่าการณ์ว่า ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมาและคาดการณ์ว่าจะมีมรสุม พายุฤดูร้อนพัดเข้าสู่ภาคเหนือประมาณ 1-2 ลูก และจะมีฝนทิ้งช่วงประมาณเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และในช่วงเดือน ส.ค. ก.ย. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ปริมาณน้ำฝนจะเริ่มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนในภาพรวมคาดว่าปริมาณน้ำฝนจะต่ำกว่าเกณฑ์ค่าเฉลี่ยปกติ ร้อยละ 5- 10 ของทั้งประเทศ
สำหรับปริมาณน้ำในลำน้ำปิงซึ่งเป็นน้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เปรียบเทียบกับเมื่อปี 2558 ซึ่งเกิดวิกฤติภัยแล้งส่งผลไปถึงปี 2559 ทางจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง ปริมาณน้ำสะสมบริเวณสถานีวัดระดับน้ำ P103 ที่สะพานข้ามแม่น้ำปิง ถนนวงแหวนรอบที่ 3 เมื่อปี 2558 มีน้ำไหลผ่านในเดือนกรกฎาคม 10 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 16 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งแนวโน้มน้ำที่ไหลผ่านในบริเวณดังกล่าวเพื่อลงสู่ตอนใต้ของจังหวัดยังคงมีปริมาณที่มากกว่า 2558 แน่นอน

เชียงใหม่มั่นใจน้ำเพียงพอผ่านภัยแล้ง


ส่วนสถานการณ์น้ำในแหล่งเก็บน้ำของชลประทานขนาดกลางทั้งจำนวน 12 แห่ง มีน้ำกักเก็บรวม 28.03 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 32.35 ซึ่งกระจายอยู่ทั่วเมืองเชียงใหม่ ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นจังหวัดเชียงใหม่มี 2 แห่ง คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บ 86.99 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 32.80 เมื่อเทียบกับปี 2561 ในช่วงเวลาเดียวกันมีน้ำกักเก็บอยู่ 123 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากมีฝนตกลงมาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และจากปริมาณน้ำในเขื่อนที่มีอยู่ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับปี 2558 มีน้ำในเขื่อนเพียง 71 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น จากการประเมินเทียบสถานการณ์ฝนกับปี 2558 จึงประเมินสถานการณ์คาดว่า 1 พ.ย. 2562 จะมีน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล 90 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะมีน้ำเพื่อการบริหารจัดการมากกว่าในช่วงวิกฤติภัยแล้งเมื่อปี 2558
ขณะที่เขื่อนแม่กวงอุดมธาราปัจจุบันมีน้ำกักเก็บ 49.60 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 18.90 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 มีน้ำกักเก็บ 81 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 31 ซึ่งเมื่อปี 2558 ที่เกิดภาวะภัยแล้ง มีน้ำกักเก็บในเขื่อน 30.9 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 11.75 เท่านั้น โดยคาดว่าหลังจากสิ้นสุดฤดูฝนประมาณวันที่ 1 พ.ย. 2562 เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จะมีน้ำในเขื่อนร้อยละ 15 ซึ่งมากกว่าเมื่อปีที่เกิดวิกฤติภัยแล้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฝนที่จะตกลงมาในพื้นที่
สำหรับแผนการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูฝน ปี 2562 ในเขตพื้นที่ชลประทาน มีพื้นที่อยู่ประมาณ 407,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ข้าวนาปี 226,000 ไร่ ปลูกไปแล้วประมาณร้อยละ33 จะสังเกตได้ว่าพื้นที่นาในเขตชลประทานจังหวัดเชียงใหม่มักจะได้รับความเสียหาย เนื่องจากได้มีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชะลอการปลูกออกไปก่อน จนกว่าจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ โดยคาดว่าหลังจากนี้เกษตรกรจะทยอยปลูกจนเต็มพื้นที่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเป็นห่วงพื้นที่นอกเขตชลประทาน อยากให้เกษตรกรผู้ใช้น้ำ หรืออปท. จัดหาแหล่งน้ำที่สามารถกักเก็บน้ำได้ไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อไว้ใช้ในปี 2563 หากน้ำไม่เพียงพอให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ ส่วนน้ำอุปโภคบริโภค เชื่อมั่นว่าจะสามารถมีน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่เมืองได้อย่างแน่อน โดยแต่ละเดือน การประปาจะใช้น้ำเพื่อการผลิตน้ำประปาประมาณเดือนละ 4 ล้านลบ.ม. หรือปีละ 25 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งได้มีการสำรองน้ำไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคไว้แล้ว นอกจากนั้นยังได้สำรองน้ำไว้ตามแก้มลิงต่างๆ ในพื้นที่อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ทางทหารที่ได้ให้ใช้พื้นที่ในการกักเก็บน้ำ รวมการสำรองน้ำในพื้นที่ต่างๆ มากกว่า 4 ล้าน ลบ.ม. จึงเชื่อว่าจะมีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคของทั้งจังหวัดเชียงใหม่อย่างแน่นอน
การวางแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2562 นี้ โดยจะเน้นใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ให้เพียงพอตลอดทั้งปี และส่งเสริมการปลูกพืชโดยใช้น้ำฝนเป็นหลักและใช้น้ำชลประทานเสริมในขณะที่ฝนทิ้งช่วงเท่านั้น พยายามเก็บกักน้ำไว้ในเขื่อนให้ได้มากที่สุด เพื่อสนับสนุนฤดูแล้งปี 2563 ต่อไป นอกจากนั้นต้องมีการบริหารจัดการน้ำท่าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้ฝายและประตูระบายน้ำในการทดน้ำเข้าพื้นที่เกษตร

logoline