Daniel Caesar เปิดโชว์อย่างเรียบง่ายด้วย "Cyanide" เพลงจาก Case Study 01 อัลบั้มชุดใหม่ที่เพิ่งปล่อยออกมาเซอร์ไพรส์แฟนๆ ได้ไม่นานนัก หรืออาจเรียกได้ว่า นี่เป็นโชว์แรกๆ ของโลกที่เขาหยิบเพลงจากอัลบั้มชุดนี้มาเล่นให้ฟังกันสดๆ โดยเฉพาะเพลงนี้ที่ทำหน้าที่ดูดผู้ชมทั้งฮอลล์ ธันเดอร์โดม เข้าสู่โลกของเขาได้อย่างทรงประสิทธิภาพ จากน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ เมโลดี้แสนนิ่มนวล และกรู๊ฟเท่ๆ ให้คนโยกตัวตาม ถัดมากับ "Love Again" อีกหนึ่งเพลงเก่งจากอัลบั้มชุดใหม่
ซึ่งเปิดโอกาสให้ Daniel ได้สำแดงพลังเสียงอย่างเต็มเหนี่ยว กับงานในทางอาร์แอนด์บี/โซลคลาสสิก ความเคลิบเคลิ้มจากเดิมที่กระจุกตัวอยู่ที่แฟนๆ โซนด้านหน้าเริ่มแผ่ขยายอาณาบริเวณมากขึ้นตามลำดับ ก่อนจะตามมาด้วย "Restore The Feeling" ที่มีเสียงกีตาร์โปร่งกับเสียงร้องเป็นพระเอกแบบเต็มๆ เดิมในอัลบั้มจะมี Sean Leon กับ Jacob Collier มาฟีทเจอริ่งสนุกๆ ด้วย แต่เวอร์ชั่นสดที่ได้ฟังกันในคอนเสิร์ตวันนี้ แม้จะต่างไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไป เช่นเดียวกับ "Open Up" ที่เล่นแล้วออกมาดีงามไม่แพ้กัน
และความพีคก็มาถึง เมื่อเสียงอินโทรของเพลง "Violet" ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกรี๊ดสนั่นของแฟนเพลงทั่วทั้งฮอลล์ เพลงนี้คืองานยุคบุกเบิกที่สร้างชื่อให้กับ Daniel Caesar สำเนียงนิ่มๆ กึ่งอาร์แอนด์บีกึ่งโซล ทั้งโทนสูงและทุ้มต่ำ ยากจะหานักร้องหน้าใหม่คนใดมาเทียบเคียง ยิ่งได้ฟังสดแบบนี้ด้วยแล้ว คงไม่ต้องบรรยายถึงสีหน้าและแววตาแห่งความปลื้มปริ่มของแฟนๆ "Complexities", "Too Deep to Turn Back" และ " Frontal Lobe Muzik" เป็นอีกหนึ่งเซ็ตความสุขจากอัลบั้มใหม่ที่ได้สดับรับฟังกันในโชว์นี้ บางเพลงเคยฟังในอัลบั้มแล้วเฉยๆ แต่พอถูกหยิบมาแสดงสดเท่านั้นแหละ กลับไพเราะขึ้นอย่างน่าประหลาด แถมยังเป็นตัวส่งความพีคไปยังช่วงไฮไลท์ของงานได้อย่างทรงพลัง เมื่อเพลงสุดฮิตที่ทุกคนรอคอยอย่าง "Get You" "Best Part" ตลอดจน "Blessed" ถูกหยิบขึ้นมาเล่นติดต่อกัน ทำเอาแฟนเพลงบางส่วนร้องตามกันสุดเสียง ขณะที่บางส่วนก็ปล่อยใจล่องลอยตามไปกับทุกตัวโน้ต ซึมซับบรรยากาศสดๆ ตรงหน้าอย่างเต็มที่ กลายเป็นที่สุดของช่วงเวลาอันน่าจดจำไปโดยปริยาย
ถัดจากนั้นโชว์ก็ถูกปิดลงอย่างสวยงามด้วยเพลง "Entropy" ก่อนที่นักร้องผู้ถูกขนานนามว่า "Golden Voice" จะเดินหายลับเข้าหลังเวที แต่ไม่ปล่อยให้แฟนๆ รอนาน Daniel Caesar ก็กลับออกมาอีกครั้งในช่วง Encore ส่งท้าย กับเพลงอย่าง "Japanese Denim" และอำลาแฟนๆ ด้วย "Superposition" ที่มาพร้อมความหวานไหวตราตรึงมากเป้นพิเศษ อันเป็นผลลัพธ์จากการได้ John Mayer มาเป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งได้ Demeter Corporation และ โปรโมเตอร์ The VERY Company มาร่วมจัดคอนเสิร์ตอาร์แอนด์บีชั้นยอดครั้งนี้
.
ในภาพรวม นี่คือคอนเสิร์ตที่มอบความสุข และความรู้สึกดีๆ ให้กับแฟนเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนั้นยังเป็นการได้ดูโชว์ในช่วงเวลาที่ตัว Daniel Caesar เองกำลัง "สดใหม่" ในวงการ แค่ลองนึกถึงตอนที่เขากลายไปเป็นศิลปินรุ่นใหญ่ในอนาคต