svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กกร.ชี้ลดดอกเบี้ยแค่ 'บรรเทา' ส่งออก

09 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. มองว่าการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของ กนง.เป็นเพียงการชะลอการแข็งค่าของเงินบาท และบรรเทาภาคการส่งออก โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังเผชิญหลายปัจจัยเสี่ยง หวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลช่วย ติดตามจากรายงานคุณกรรณิการ์ รุ่งกิจเจริญกุล

ดูเหมือนว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง หลายฝ่ายยังคงลุ้นกันใจจดใจจ่อ ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของเศรษฐกิจไทยต่อจากนี้ ว่าจะไปทิศทางใด ท่ามกลางปัจจัยเสียงทั้งภายนอก ภายในที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะสงครามการค้าที่ยืดเยื้อของสหรัฐกับจีนที่ทุกฝ่ายต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด พร้อมกับการรอคอยนโยบายกระตุ้นเศรฐกิจครึ่งปีหลังของรัฐบาล
ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน  หรือ กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี มีผลทันที เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ และต่ำกว่าศักยภาพ การส่งออกหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. สุพันธุ์ มงคลสุธี เผยว่า ภาคการส่งออกอยู่ในช่วงลำบาก การที่ กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เป็นการชะลอการแข็งค่าของเงินบาท และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ แต่ดูแล้วเป็นการบรรเทาภาคการส่งออกเท่านั้น เพราะในระยะยาวปัจจัยจากสงครามการค้ายังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องดูอย่างใกล้ชิด เพราะตัวเลขครึ่งปีแรกการส่งออกไปสหรัฐโต3.5% ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนโตถึง5.5% ส่วนการส่งออกไปจีนครึ่งปีแรกพบติดลบ9.7% ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนโต9.9%  
สิ่งสำคัญที่ภาคเอกชนหวัง คือ รัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เน้นการบริโภคภายในประเทศ โดยฝากให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเข้าไปช่วยผลักดันโครงการต่างๆด้วย โดยเฉพาะมาตรการระยะสั้น เช่น มาตรการด้านภาษี /ดูแลราคาสินค้าเกษตร/ภาคอสังหาริมทัรพย์รวมถึงมาตรการผ่านการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 
ส่วนเหตุการณ์ระเบิดป่วนหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้นั้นเชื่อว่าส่งผลเชิงจิตวิทยาในช่วงสั้นๆ เท่านั้น และเชื่อมั่นว่า รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ด้านประธานสมาคมธนาคารไทย ปรีดี ดาวฉาย  เผยว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยทั้งการส่งออกและการใช้จ่ายภายในประเทศมีสัญญาณที่อ่อนแรงลงต่อเนื่องถึงไตรมาส2 สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัว 2.8% ขณะที่ค่าเงินบาทขหากนับจากต้นปีถึงล่าสุด6 ส.ค. เงินบาทแข็งค่าแล้ว 5.9% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเป็นอัตราแข็งค่ามากสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาค
ประธานกรรมการสภาหอการค้าไทย กลินท์ สารสิน เผยว่า อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการค้าขายกับกลุ่มประเทศ CLMV และการค้าตามแนวชายแดน พร้อมทั้งผลักดันการใช้เงินสกุลท้องถิ่นระหว่าง 2 ประเทศ (Local Currency) ให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งส.อ.ท.และสภาหอการค้าไทย จะเข้าพบผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เพื่อหารือและเสนอเรื่องให้ ธปท.พิจารณา แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นเรื่องใด
ที่ประชุม กกร. จะติดตามสถานการณ์ต่างๆ เพื่อประเมินทิศทางการปรับตัวของเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยขณะนี้ จึงยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ การส่งออก และอัตราเงินเฟ้อ ในปี 2562 ไว้ตามกรอบเดิมและคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ปีนี้ไว้ที่ 2.9-3.3% การส่งออก ขยายตัว -1 ถึง 1% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เพิ่มขึ้น 0.8-1.2%
กรรณิการ์  รุ่งกิจเจริญกุล  เนชั่นทีวีรายงาน 

logoline