svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

'อมรเทพ' เปิด 3 ปม กนง.ลดดอกเบี้ย

08 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

'อมรเทพ' ระบุ ธปท.เปิดประตูดอกเบี้ยขาลง กระโจนเข้าสู่สงครามค่าเงินในภูมิภาค พร้อมแจง 3 ประเด็น ต้นตอการลดดอกเบี้ย แต่เชื่อว่ามีผลไม่มากพอที่จะทำให้สินเชื่อเติบโต จนกระตุ้นเศรษฐกิจได้

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ระบุ การลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จาก 1.75% เหลือ 1.50%นับว่าเหนือความคาดหมายที่ลดเร็วกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้เรามองว่ากนง.จะลดดอกเบี้ยแต่น่าจะลดปลายปี แต่รอบนี้ลดเร็วกว่าที่คาดและไม่ได้มีการส่งสัญญาณก่อนหน้า โดยให้เหตุผลว่ามาจากความเสี่ยงที่มากขึ้นและจากเศรษฐกิจที่ชะลอ


สำหรับเหตุผลของการลดดอกเบี้ยมี 3 เหตุผลหลักๆ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ปท. มีความอดทนสูง 3 ด้าน แต่วันนี้น่าจะมีความอดทนน้อยลงใน 3 ด้านหรือไม่ทนอีกต่อไปแล้ว คือ


1.ไม่ทนต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่ำกว่าคาดตัวเลขล่าสุดเดือนมิ.ย.2562 สะท้อนภาพว่าเศรษฐกิจชะลอจากภาคการส่งออกและกำลังลามมาสู่ภาคในประเทศและเชื่อว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 จะโตต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ และที่น่าจับตาคือเราคิดว่าเศรษฐกิจที่ชะลอในครึ่งแรกเป็นปัจจัยชั่วคราวที่น่าจะไปฟื้นครึ่งหลังแต่หลังจากสงครามการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังมีการขึ้นภาษีจากสหรัฐต่อจีนในสินค้านำเข้า3 แสนล้าน ขึ้นมาอีก 10% น่าจะสะท้อนว่าเศรษฐกิจในอนาคตไม่ดีตรงนี้น่าจะเป็นจุดพลิกผันที่ ปท.ไม่ทนต่อไปแล้วกับเศรษฐกิจที่จะชะลอการส่งออกคาดว่าจะย่ำแย่ต่อเนื่องแล้วก็ลามมาสู่เศรษฐกิจในประเทศไทย


2.ธปท.ไม่ทนต่อเงินเฟ้อต่ำ เพราะเงินเฟ้อเดือนล่าสุดหลุดกรอบล่างที่1% อีกแล้ว และมองต่อไปข้างหน้าราคาพลังงานที่ลดลง และลามมาสู่อุปสงค์ในประเทศที่ดูเหมือนชะลอกำลังซื้ออาจจะไม่ค่อยมีมากนัก อาจจะเป็นอีกปัจจัยที่ ธปท.อาจมีการลดดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินเฟ้อให้สูงขึ้นได้
 
และ 3.ธปท.ไม่ทนต่อไปอีกแล้วสำหรับบาทที่แข็งค่า วันนี้ค่าบาทแข็งค่าที่สุดในภูมิภาคและออกข่าวต่างประเทศหลายวันว่าเศรษฐกิจไทยเผชิญปัญหาบาทแข็งจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งไม่ว่าจะเป็นการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูงแม้ว่าส่งออกจะย่ำแย่ แต่มีรายได้จากการท่องเที่ยว ที่สำคัญก็คือ เมื่อจีนชะลอแต่ไทยไม่ได้อยู่ในซัพพลายเชนหรือผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนหรือภาคการส่งออกมากนัก ทำให้บาทเป็นที่พักของนักลงทุนต่างชาติ บาทแข็งและกระทบความสามารถในการแข่งขันผู้ส่งออกย้อนกลับมาเรื่องของเศรษฐกิจที่ชะลอและเงินเฟ้อต่ำได้ เพราะฉะนั้นมองต่อไปเศรษฐกิจวันนี้อยู่ในช่วงของการชะลอ แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย 5-2 วันนี้หวังผลกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงเงินเฟ้อให้ขยับดีขึ้น


เชื่อว่าวันนี้เป็นการประกาศสงครามค่าเงินอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไทยต้องกระโจนเข้ามาหลังจากแบงก์ชาตินิวซีแลนด์และอินเดียลดดอกเบี้ยธปท.ก็ต้องเข้ามาร่วมวงด้วย เป็นการเข้ามาพร้อมกันทีเดียวในภูมิภาคนี้เพื่อเปิดศึกสงครามที่สำคัญคือเพื่อดึงเศรษฐกิจในประเทศไม่ให้ชะลอมากไปกว่านี้ แต่วันนี้ต้องมองต่อไปว่าธปท.เพิ่งขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แล้วกลับมาลดเหลือ 1.5% อยากตั้งคำถาม2 ข้อ คือ 1.ธปท.จะลดดอกเบี้ยต่ออีกไหม จะลดต่อในปีนี้หรือปีหน้า และ 2. สิ่งที่ธปท.กังวลไม่ว่าจะเป็นเสถียรภาพเศรษฐกิจ เรื่องของหนี้ครัวเรือนสูง คนลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงเกินตัวธปท.ยังห่วงอยู่หรือไม่


"สำหรับคำถามแรกคือ ธปท.จะลดดอกเบี้ยต่อไหม ผมเชื่อว่าลดครับเมื่อเปิดประตูดอกเบี้ยขาลงแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะลดต่อและเชื่อว่าจะพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจเป็นหลัก จีดีพีไตรมาส2 ที่จะรายงานกลางเดือนนี้  ถ้าออกมาแย่เป็นไปได้ที่กนง.จะลดดอกเบี้ยอีกครั้งกันยายนนี้ หรืออาจจะรอต่อไปคือรอจีดีพีไตรมาส3ที่จะรายงานในเดือนพ.ย.แล้วลดดอกเบี้ยอีกครั้งเดือนธันวาคมก็ยังไม่สาย"


ส่วนคำถามสอง เชื่อว่าธปท.ยังมีความกังวลอยู่ สำหรับเรื่องดอกเบี้ยที่ลดลงแล้วจะกระทบกับหนี้ครัวเรือนที่สูงกระทบต่อเสถียรภาพตลาดเงินตลาดทุน แล้วที่สำคัญ ธปท.ห่วงเรื่อง policy space ว่าถ้าเกิดวิกฤตในอนาคตธปท.จะไม่เหลือเครื่องมือใดๆในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงต้องจับตาว่า ธปท.อาจใช้เครื่องมืออื่นนอกจากดอกเบี้ย เพื่อประคองเสถียรภาพตลาดเงินตลาดทุน ออกมาตรการ LTV ไปแล้ว อาจจะดูเรื่อง DSR เกณฑ์วัดในการปล่อยสินเชื่อสำหรับลูกค้าเป็นปัจจัยที่น่าติดตามต่อไป


ดร.อมรเทพ สรุปว่า การลดดอกเบี้ย เหมือนการที่ ธปท.ไม่ขอทนต่อไปแล้วสำหรับสงครามการค้าที่ลามมาสู่สงครามค่าเงินซึ่งไทยเป็นเหยื่อของภาคการส่งออกที่ย่ำแย่ และจากเงินบาทที่แข็งค่าแต่การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ คงมีผลไม่มากที่จะทำให้สินเชื่อเติบโตจนพอจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพราะธปท.คงห่วงเรื่องเสถียรภาพตลาดเงินอยู่และยังไม่หย่อนเกณฑ์ในการกำกับธนาคารพาณิชย์ จึงหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็วเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีขึ้น และกระจายตัวไปสู่ระดับ SME และฐานรากของประเทศ

logoline