svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์เชื่อหั่นดอกเบี้ยช่วยรายได้เงินบาทส่งออกดีขึ้น

08 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พาณิชย์ ประเมินกนง.หั่นดอกเบี้ย ช่วยลดการแข็งค่าของค่าเงินบาท หลังส่งออกเจอปัจจัยสงครามการค้าสหรัฐและจีนกดดัน กลายเป็นสงครามค่าเงิน แนะผุ้ส่งออกประกันความเสี่ยงลดความผันผวน

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพรผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางจีนทะยอยปรับอัตรากลางเงินหยวนตั้งแต่ต้นสัปดาห์ส่งสัญญาณว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเริ่มขยายวงกว้างไปสู่สงครามการเงินและส่อเค้ายืดเยื้อไปอีกพักใหญ่แม้ว่าธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์ปฏิเสธการจัดการค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการส่งออกและให้เหตุผลว่าค่าเงินหยวนสอดคล้องกับอุปสงค์อุปทานและพื้นฐานของเศรษฐกิจจีน

 


ทั้งนี้ค่าเงินหยวนมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ อัตรากลางล่าสุด เท่ากับ7.0039 หยวนต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงอีกเล็กน้อยจากวันที่ 5 ส.ค. 62 ที่ระดับ 6.9925หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนับว่าอ่อนค่าที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ตั้งแต่เมษายน 2551และเป็นครั้งแรกที่ค่ากลางทะลุ 7.0ซึ่งเป็นแนวต้านที่ธนาคารกลางเฝ้าระวังและกำกับดูแลมาตลอด


นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า การที่เงินหยวนอ่อนค่าทำให้สินค้าจีนมีราคาถูกลงโดยเปรียบเทียบส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถทางการแข่งขันของประเทศคู่แข่งรวมถึงไทยในตลาดสหรัฐฯ และตลาดที่สาม อย่างไรก็ตาม การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 62 ทำให้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯและไทยกลับไปสู่ใน0.5%ซึ่งเท่าช่วงก่อนที่ FED จะลดอัตราดอกเบี้ย 2.0 2.25%  (1 ส.ค. 62)โดยประเมินว่าแรงกดดันต่อการแข็งค่าของเงินบาทลดลงและเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนตัวลงจากขณะนี้ ประกอบกับมาตรการเพื่อเฝ้าระวังเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นที่ออกมาก่อนหน้านี้จะเป็นอีกกลไกหนึ่งเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินให้สอดคล้องกับสภาพปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจนอกจากนี้ นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับสู่กรอบเป้าหมาย         



นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวต่อว่าแนวโน้มค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลง จะส่งผลกระทบทางตรงให้รายได้จากการส่งออก(ในรูปเงินบาท) ปรับตัวดีขึ้นจากระยะก่อนและมีผลทางอ้อมสนับสนุนให้สินค้าส่งออกของไทยการแข่งขันได้ดีขึ้นส่งผ่านต่อเนื่องไปถึงเศรษฐกิจในประเทศ กระตุ้นภาคการผลิต และเพิ่มการจ้างงานต่อไปนอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะที่เงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมายส่งผลให้ปริมาณเงินเพื่อการหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นส่งผลดีต่ออุปสงค์การบริโภคและทำให้เงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้เมื่อรวมผลกระทบจากทางผลทางด้านรายได้จากการส่งออกที่มากขึ้นและราคานำเข้าที่สูงขึ้น ชี้ว่าทิศทางเงินเฟ้อน่าจะปรับสูงขึ้น


อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนของข้อพิพาททางการค้า และสถานการณ์อื่นๆอาจทำให้ค่าเงินยังมีความผันผวน ผู้ส่งออกควรพิจารณาทำประกันความเสี่ยง และจูงใจให้ผู้นำเข้าทำสัญญาระยะยาวเพื่อเป็นหลักประกันการซื้อขายประกอบด้วยเพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ไม่คาดคิด


นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวทิ้งท้ายว่าสัญญาณการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่น และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยครั้งแรกในรอบ 52 เดือน (ตั้งแต่เม.ย. 58) ชี้ว่าเศรษฐกิจโลกและไทย ยังอยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมรายได้อย่างตรงจุดและเสมอภาครวมถึงการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในสถานการณ์ปัจจุบัน น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นได้โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์นั้น ได้มีการเตรียมมาตรการดูแลและกระตุ้นการส่งออกรวมถึงการค้าชายแดนโดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีสัดส่วนต่อการส่งออกค่อนข้างสูงเพื่อกระจายความเสี่ยงตลาดส่งออก และลดการพึ่งพาตลาดเดิม อีกทั้งการลดอุปสรรคทางการค้าก็เป็นอีกมาตรการเร่งด่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจของภาคเอกชน โดยในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ. พาณิชย์) ในวันที่ 14 ส.ค. 62 นี้จะได้หารือในรายละเอียดและกำหนดแนวทางเพื่อขับเคลื่อน สู่ภาคปฏิบัติต่อไป

logoline