ตำรวจแถลงจับ "โหน่ง อีแอลซี" คดีฉ้อโกงทัวร์

วันนี้ (6 ส.ค.) เวลา 12.00 น. ที่สน.หัวหมาก พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.) ร่วมกับ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผบช.น. และนางสาววันทนา แจ้งประจักษ์ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว (กทท.) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายภัทริคณ์ เรตะกุล หรืออาจารย์โหน่ง เจ้าของบริษัท อีแอลซี กรุ๊ป จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. และชุดสืบสวนสน.หัวหมาก ได้ติดตามจับกุมนายภัทริคณ์ ได้ที่คอนโดศุภาลัยซิตี้ รามคำแหง พร้อมยึดของกลาง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.หัวหมาก ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนเริ่มแถลงข่าวมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บังคับบัญชาและพนักงานสอบสวน เป็นเวลา 30 นาที เพื่อมอบแนวทางการดำเนินคดี 

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวว่า สืบเนื่องจากเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายประมาณ 280 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายภัทริคณ์ ที่มีพฤติการณ์หลอกลวง เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผบ.ตร. ในฐานะผอ. ศปอส.ตร. ทำการสืบสวนสอบสวนคดีอย่างเงียบๆมาโดยตลอด ต่อมาได้ประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจท่องเที่ยว กองปราบปราม กรมการท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อสืบสวนติดตามดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวดังกล่าว จนนำมาสู่การออกหมายจับ และจับกุมนายภัทริคณ์ได้ในที่สุด ซึ่งนายภัทริคณ์ หรืออาจารย์โหน่งนั้น ทำหน้าที่เป็นผู้ลงนามสูงสุดของบริษัทอีแอลชีทัวร์ โดยหลังจับกุมผู้ต้องหาได้พาไปตรวจค้นที่สำนักงาน และพบหลักฐานต่างๆอีกจำนวนมาก ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถออกทัวร์ได้ตามโปรแกรม ผู้ต้องหาอ้างว่าหมุนเงินไม่ทัน และอยู่ระหว่างหาเงินมาเคลียร์ให้ผู้เสียหาย ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ส่วนจะมีใครร่วมขบวนการเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีการนำข้าราชการระดับสูง และบุคคลที่มีชื่อเสียงไปท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งหากผลการสอบสวนไปถึงบุคคลใด จะดำเนินคดีอย่างไม่ละเว้น 


"ขอยืนยันว่า การดำเนินคดีทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ยึดตามพยานหลักฐาน หากผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก ไม่มีการลูบหน้าปะจมูกอย่างแน่นอน" พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว 

พล.ต.ท.ปิยะ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของผู้เสียหายได้ทำการสอบปากคำไปแล้ว 220 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่แจ้งความไว้กับสน.หัวหมาก นอกจากนี้ยังมีอีก 60 รายไปแจ้งความกองปราบปราม รวมทั้งหมด 280 ราย ซึ่งคาดว่ายังจะมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเพิ่มเติม จึงสั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษคดีอีแอลซี ขึ้นที่สน.หัวหมาก และจะนำทีมตำรวจไม่น้อยกว่า 60 นาย มาคอยอำนวยความสะดวกในการรับแจ้งความ ทั้งนี้อยากฝากไปยังผู้เสียหายที่ยังลังเลเกี่ยวกับการดำเนินคดี ให้เตรียมเอกสารหลักฐาน ทยอยมาแจ้งความที่สน.หัวหมาก ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงต้นเดือนก.ย. ก่อนที่พนักงานสอบสวน จะสรุปสำนวนคดีให้พนักงานอัยการต่อไป


ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผบช.น. บอกว่า ได้สั่งการไปยังพนักงานสอบสวน ให้เตรียมความพร้อมในการรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ เพื่อประกอบสำนวนคดีอย่างรอบคอบรัดกุม เนื่องจากเป็นคดีที่มูลค่าความเสียหายสูง และผู้เสียหายจำนวนมาก


ด้าน นางวันทนา แจ้งประจักษ์ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว บอกว่า ที่ผ่านมาทางกรมฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบบริษัทอีแอลซี ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จนนำมาสู่การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทัวร์อีแอลซี ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้รวบรวมข้อมูลผู้เสียหายส่งให้ตำรวจอยู่ตลอด ซึ่งทางกรมฯ และตำรวจได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดี ไม่ได้นิ่งนอนใจกับข้อร้องเรียนของผู้เสียหายตามที่เป็นข่าว       


สำหรับขั้นตอนการดำเนินคดีหลังจากนี้ ตำรวจสน.หัวหมาก จะควบคุมตัวนายภัทริคณ์ หรืออาจารย์โหน่ง ไว้สอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนจะพาตัวมาพิมพ์ลายนิ้วมือ ทำประวัติเป็นหลักฐาน และอาจมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และพ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยคาดว่าจะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) เวลา 13.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการแถลงข่าว มีกลุ่มลูกทัวร์อีแอลซีประมาณ 10 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังต้องการเดินทางกับทัวร์นี้ต่อ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจอาจารย์โหน่งในห้องขัง สน.หัวหมาก โดยได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรกถึงความประทับใจที่มีต่ออาจารย์โหน่งและทัวร์อีแอลซี