นางกุลธิรัตน์ สุมนทา ชาวต.ปากคาด จ.บึงกาฬ เล่าถึงสภาพความแห้งแล้งของแม่น้ำโขงที่ยังแห้งขอดมานานนับเดือน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ทั้งการอุปโภคและบริโภครวมถึงน้ำที่ไว้ใช้ในการเกษตร เรือใหญ่ยังไม่สามารถวิ่งผ่านได้มีเพียงเรือเล็กหรือผู้ที่หาปลาวิ่งผ่านเท่านั้น โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา น้ำลดลงไปมากขนาดลงไปเดินบริเวณทรายด้านล่างได้อย่างง่ายดาย แต่ช่วงนี้ที่พายุเข้าทำให้ฝนตกลงมาก็รู้สึกดีใจขึ้นมา เพราะเพิ่มปริมาณน้ำโขงได้บ้างและพอมีน้ำได้ใช้
แต่ก็พอรู้ข้อมูลมาว่า ปัจจัยสำคัญมาจากโครงการก่อสร้างเขื่อนน้ำโขง ในประเทศจีน รวมถึง ใน สปป.ลาว ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ ถ้าในอนาคตปัญหาขาดแคลนน้ำจะกระทบรุนแรงมากขึ้นถ้าหากประเทศต้นน้ำมีการควบคุมระบบน้ำโขงจากเขื่อนไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
ไม่ต่างจากความรู้สึกของนางตอง เวศวงศ์ ชาวสปป.ลาวคนนี้ ที่บ้านพักเธออยู่ฝั่งตรงข้ามของไทย โดยมีแม่น้ำโขงกั้นระหว่างกลาง และเธอมักมาหาหมอที่ฝั่งไทยเป็นประจำจากโรคอัมพฤกษ์ที่ยังไม่สามารถรักษาหายขาด โดยเธอเล่าว่า ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 57ปี ไม่เคยเห็นแม่น้ำโขงบริเวณอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ลดน้อยลงขนาดนี้ทำให้รู้สึกใจหาย เพราะฝั่ง สปป.ลาวสภาพอากาศรวมถึงลำน้ำหลายสายก็แห้งแล้งเช่นเดียวกัน ทำให้นาข้าวที่มีอยู่ 9ไร่ตายหมด