"ธนาธร" เล็งเสนอ 4 แนวคิด คืนอำนาจประชาธิปไตยให้ประชาชน

เปิดแคมเปญเป็นที่แรก ณ พุทธสถานเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กับเวทีเสวนาในหัวข้อ "จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่ :  ประเทศไทยแบบไหน ที่เราอยากอยู่ร่วมกัน" ดำเนินการเสวนาโดย เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ปิยบุตร แสงกนกกุล ร่วมด้วย ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย กษิต ภิรมย์ // อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง สมชัย ศรีสุทธิยากร // ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล โคทม อารียา // และประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ สุรีรัตน์ ตรีมรรคา รวมถึงมีการบรรยายพิเศษเรื่อง "การแสวงหาฉันทามติครั้งใหม่ของสังคมการเมืองไทย" โดยหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 
โดยหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวบน เวทีเสวนา เรื่อง "จินตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่ : ประเทศไทยแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน" ว่า เชื่อว่าประชาชนชาวเชียงใหม่ มีความคิดเห็นตรงกันกับประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศ โดยการเปิดตัวรณรงค์ครั้งนี้ กระจายไปแต่ละจังหวัด เพื่อหวังว่าจะนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ให้ประชาชนมีส่วนในการเขียน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันถูกสร้างมาด้วยคนไม่กี่คน ดังนั้นหากต้องการได้ข้อตกลงใหม่ ต้องไม่ลอกเลียนใคร ไม่สามารถนำรัฐธรรมนูญของต่างประเทศมาใช้ได้ทั้งหมด ประชาชนทั้งประเทศต้องมีส่วนร่วม และอยู่บนพื้นฐานที่เห็นร่วมกันทั้งประเทศ
ขณะเดียวกัน นายธนาธร กล่าวต่อว่า เมื่อปี 2540 เคยทำสำเร็จมาแล้ว โดยการร่างรัฐธรรมนูญจากฉันทามติ เพราะไม่สามารถฝ่ากระแสมติของประชาชน จึงเชื่อว่า หากทุกคนลุกขึ้นมาทำร่วมกันอีกครั้ง จะสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นจริงได้ โดยรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เกิดขึ้นเพราะประชาชนไม่อยากได้รัฐธรรมนูญครึ่งใบ ต้องการการเมืองที่สามารถตรวจสอบผู้ใช้อำนาจได้ รวมถึง ต้องการให้ทหารกลับกรมกอง หลังเกิดการรัฐประหาร เมื่อปี 2534 ทำให้ประชาชนต้องการการเมืองที่มีประสิทธิภาพ พาประเทศไทยต่อสู่กับกระแสโลกาภิวัตน์ได้ ขณะที่ประชาชนในช่วงนั้น ต้องการการประกันสิทธิและใช้สิทธิเสรีภาพของตัวเอง ซึ่งถือว่า รัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนอย่างและได้รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพเข้มแข็ง 
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า 13 ปีที่ผ่านมา มีการทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง เกิดความขัดแย้งของประชาชน เกิดความขัดแย้งทางการเมือง และมีผู้คน บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก  เกิดการตั้งคำถามกับระบบตุลาการ ว่า ความยุติธรรมยังใช้ได้หรือไม่ นอกจากนี้ในด้านเศรษฐกิจ ถือว่า ถดถอย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อบ้าน งบประมาณไม่ได้ถูกนำไปใช้สร้างรายได้ แต่กลับนำไปใช้ซื้อคะแนนนิยม ขณะที่ การศึกษา ถูกจัดระดับคุณภาพด้านการศึกษาที่ตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย  เพราะผู้มีอำนาจใช้เวลาไปกับการต่อสู่ทางการเมือง คุณภาพชีวิตของประชาชนจึงไม่ได้รับการพัฒนา
ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่า รธน. 2560 คือ ระเบิดเวลา ที่จะระเบิดประทุออกมาเป็นความรุนแรง และเพื่อหยุดระเบิดเวลานี้ ต้องช่วยกันหยุด รัฐธรรมนูญฉบับที่ทำให้รัฐประหารถูกกฎหมาย และให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อยู่เหนืออำนาจประชาชน ซึ่งมั่นใจว่า ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากความขัดแย้งทางการเมืองตลอด 13 ปี แต่กลับเป็นกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน 
ดังนั้น ถึงเวลาที่ประชาชนต้องเดินร่วมกัน แม้มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง แต่เขื่อว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นในการหาฉันทามติครั้งใหม่ โดยเสนอกรอบแนวคิด 4 อย่างคือ ประชาธิปไตยอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน // มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ // มีพระราชฐานะอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง // มีรัฐสภาซึ่งแสดงออกถึงเจตจำนง ของประชาชนอย่างแท้จริงและมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมีเสถียรภาพ // มีนิติรัฐ สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้รับความคุ้มครองมีระบบตรวจสอบการใช้อำนาจ พร้อมย้ำว่า การแสวงหาฉันทามติไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดทางเดียวของสังคมไทย