"ไมค์ ปอมเปโอ" ชูบทบาทเอกชนสหรัฐฯ ในไทยและเอเซีย

ปอมเปโอกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "บทบาทสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย ความผูกพันทางเศรษฐกิจแบบถาวร" ต่อกลุ่มนักธุรกิจและเยาวชนชาวไทย ณ สยามสมาคมว่า ความผูกพันทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในเอเชียมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ช่วยให้เอเชียเจริญรุ่งเรืองนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง แม้บางครั้งอาจจะถูกลืมไป หรือถูกบิดเบือนโดยผู้ไม่หวังดี โดยย้ำว่า นี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ ในเอเชีย และเป็นแนวทางที่สร้างผลประโยชน์ร่วมกัน

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ปัจจุบันมีบริษัทจากอเมริกากว่า 4,200 บริษัท เข้ามาลงทุนและทำธุรกิจในอาเซียน ทำให้เกิดการจ้างงาน พัฒนาทักษะแรงงาน และคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่มีประเทศใดในโลกสามารถทัดเทียมได้

ตลอดทั้งสุนทรพจน์ความยาวกว่า 13 นาที ปอมเปโอได้เน้นย้ำบทบาทการเข้ามาลงทุนในไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียโดยบริษัทเอกชนของสหรัฐฯ และบอกว่าความสำเร็จทางเศรษฐกิจของเอเชียเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ การค้า และเสรีภาพ 

โดยเปรียบเทียบกับกรณีรัฐวิสาหกิจของจีนว่า จริงอยู่ที่รัฐบาลสามารถสร้างบริษัทที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศได้ แต่ในท้ายที่สุดรัฐบาลต้องถอยออกมา นอกจากนี้รัฐบาลต้องให้ประชาชนมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน, เคารพในหลักนิติธรรม, ลดอัตราภาษี, และผ่อนคลายกฎระเบียบภาครัฐ 

ขณะที่ในประเด็นสงครามการค้า ปอมเปโอมองว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพียงแค่ชี้ให้เห็นปัญหาที่จีนสร้างเอาไว้อยู่แล้ว และหากความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ คลี่คลายได้เมื่อไหร่ ก็จะเป็นการสร้างการค้าที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์ต่อทั้งโลก

- ปัญหาของจีนเป็นปัญหาที่จีนสร้างขึ้นมาเอง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพียงแค่กล้าเผชิญหน้ากับการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีนและชี้ให้เห็นต้นตอของปัญหาเท่านั้น เราต้องการให้เรื่องการค้าคลี่คลายโดยเร็วที่สุด สิ่งที่สหรัฐฯ และประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการก็คือการให้จีนแข่งขันกับชาติอื่นอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่แค่กับสหรัฐฯ นี่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสหรัฐฯ เอเชีย และระบบการค้าของทั้งโลก
สุดท้ายนี้ปอมเปโอกล่าวว่า สหรัฐฯ กับไทยเป็นเพื่อนกันมานานกว่า 200 ปี และนับจากนี้ สหรัฐฯ ก็จะยังคงยึดมั่นในความเป็นพันธมิตรกับภูมิภาคอินโดแปซิฟิกต่อไป