โดย 3 นักเตะของ ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมล่าสุด ประกอบไปด้วย เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่สื่อหลายสำนักยกให้เป็นเต็ง 1 รวมถึง ซาดิโอ มาเน่ กองหน้าทีมชาติเซเนกัล และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอียิปต์
นอกจากนี้ก็ยังมีชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ สองนักเตะดังที่ผลัดกันครองรางวัลประจำปีมาตลอดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงดาวรุ่งอย่าง เฟรงกี้ เดอ ยอง และ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ส่วนอีก 3 รายที่มีชื่อเข้าชิงก็คือ เอแด็น อาซาร์ แนวรุกคนใหม่ของ เรอัล มาดริด , แฮร์รี่ เคน ดาวยิงจาก สเปอร์ส และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
ส่วนรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี นำโดยสามกุนซือจากพรีเมียร์ลีก คือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้, เจอร์เก้น คล็อปป์ ของลิเวอร์พูล และ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ นอกจากนี้ก็ยังมี ฌาแมล เบลมาดี้ ของทีมชาติแอลจีเรีย, ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ ของทีมชาติฝรั่งเศส, มาร์เซโล่ กายาร์โด้ ของริเวอร์เพลท, ริคาร์โด้ กาเรก้า ของทีมชาติเปรู, เฟร์นานโด ซานโต๊ส ของทีมชาติโปรตุเกส, เอริก เทน ฮาก จาก อาแจ็กซ์ และ ติเต้ ของทีมชาติบราซิล
สำหรับรางวัลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า จะคิดคะแนนจากการโหวตของแฟนบอลเป็นจำนวน 25% โดยมีระยะเวลาในการโหวตคือระหว่างวันที่ 31 ก.ค. 19 ส.ค. นี้ ส่วนคะแนนที่เหลือจะมาจากการโหวตของ ผู้สื่อข่าว, โค้ชทีมชาติ และกัปตันทีมชาติ ที่เป็นสมาชิกของฟีฟ่าทั้งหมด และจะมีพิธีมอบรางวัลอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ก.ย. นี้ ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี