svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดใจลูกสาวรองตี๋ หลังฟังคำตัดสิน "เสี่ยเบนซ์"

01 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

31 ก.ค. 62 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดตลิ่งชัน นัดฟังคำพิพากษาคดี นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ เมาซิ่งรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถยนต์ ซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร บนสะพานคลองตาปุ้น ถนนทวีวัฒนา - กาญจนาภิเษก พังยับเยิน

โดยวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร หรือ ตี๋ งามสุวิชชากุล อายุ 48 ปี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. และ นางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยา เสียชีวิต ส่วน ด.ญ. อายุ 12 ปี ลูกสาว บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลาตีหนึ่ง วันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ นายสมชายให้การรับสารภาพ ประกาศขอรับผิดชอบทุกอย่าง อีกทั้งยังเดินทางไปขอขมาศพที่วัด และบวชหน้าไฟในวันพระราชทานเพลิงศพ
ต่อมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้องนายสมชายต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันใน 3 ความผิด ขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส
โดยคดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ตามที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแจ้งข้อหาดังกล่าวมาด้วย เนื่องจากอัยการพิจารณาแล้วพฤติการณ์ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทางกฎหมาย และก่อนการยื่นฟ้อง นายสมชายได้รับการปล่อยตัวไปด้วยวงเงิน 200,000 บาท ขณะเดียวกันนายสมชายยินยอมเยียวยาชดใช้ค่าเสียหาย 45 ล้านบาท ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันคงเหลือเพียงบุตรสาวคนโตและบุตรสาวคนเล็กที่มีป้าเป็นผู้ปกครองดูแลอยู่
ทั้งนี้ นายสมชายแสดงจุดประสงค์จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับครอบครัวของ พ.ต.ท.จตุพร และ นางนุชนาถ โดยตกลงการชดใช้ค่าเสียหายต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่าให้ดูแลค่าไร้อุปการะให้กับมารดา พ.ต.ท.จตุพร เป็นเงิน 2.5 ล้านบาท และให้ทางผู้ใหญ่ของนางนุชนาถอีก 2.5 ล้านบาท ส่วนนี้ลงบันทึกประจำวันต่อหน้าพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน ส่วนลูกสาวทั้ง 2 คน จะมอบเงินให้อีกจำนวนหนึ่ง โดยบุตรสาวคนโต อายุ 15 ปี และ ด.ญ. อายุ 12 ปี บุตรสาวคนเล็ก ซึ่งอาการบาดเจ็บหายเป็นปกติเดินทางไปโรงเรียนได้แล้ว คนละ 15 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเช้า นายสมชายเดินทางมารอตั้งแต่ 07.00 น. ก่อนจะขึ้นไปฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดี 403 โดยยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่ผู้สื่อข่าวหลายสำนักให้ความสนใจติดตามทำข่าวจำนวนมาก
ขณะที่บุตรสาวทั้งสองคนของ พ.ต.ท.จตุพร หรือ รองตี๋ พร้อมกับญาติ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา แต่ยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าวเช่นกัน
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. ศาลตัดสินว่า จำเลยกระทำความผิดกรรมเดียวแต่หลายความผิด จึงลงโทษหนักที่สุดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก จำคุก 6 ปี ปรับ 2 แสนบาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิด ไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน ศาลให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม จึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท และโทษจำคุกรอลงอาญา โดยระหว่างนี้ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง ใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมง ในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา ของมึนเมา

เปิดใจลูกสาวรองตี๋ หลังฟังคำตัดสิน "เสี่ยเบนซ์"


นายสมชาย กล่าวภายหลังศาลตัดสินว่า ขอขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายที่ให้อภัย และขอบคุณศาลและสังคมที่ให้อภัย หลังจากนี้จะมอบเงินให้บุตรสาวของ พ.ต.ท.จตุพร 2 คน คนละ 10,000 บาท ต่อเดือน และค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว 20,000 บาท รวม 40,000 บาท เป็นระยะเวลา 8 ปี จนบรรลุนิติภาวะ พร้อมฝากไปถึง พ.ต.ท.จตุพร และภรรยา ขอให้ไปสู่สุขคติสู่ภพภูมิที่ดี ตนเองขอสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวทั้ง 2 คน ให้ดีที่สุด ตนเองตกเป็นผู้กระทำความผิด จึงไม่กล้าสอนหรือแนะนำอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สำหรับตนเองนั้นตัดสินใจจะเลิกดื่มตลอดชีวิต ตอนนี้รู้สึกโล่งใจ หลังจากเครียดมานานกว่า 3 เดือน

น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ อายุ 45 ปี พี่สาวของ นางนุชนาฎ ผู้ตาย กล่าวว่า ทางครอบครัวได้เริ่มต้นจากให้อภัยตั้งแต่แรก เพราะคู่กรณีได้เข้าไปกราบเท้าแม่เพื่อขออภัย โดยแม่ได้ขอให้นายสมชายเลิกดื่มแอลกอฮอล์ตลอดชีวิต ยอมรับว่าการสูญเสียไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นและไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนได้ ที่ผ่านมา ผ่านเรื่องราวมาได้เพราะกำลังใจทุกฝ่าย ทั้งตำรวจและคู่กรณีนายสมชาย ตอนนี้ให้อภัยไปหมดแล้ว
ขณะที่บุตรสาวทั้งสองคนของ พ.ต.ท.จตุพร หรือ รองตี๋ กล่าวว่า ในช่วงแรกยอมรับว่ามีผลกระทบ ทำใจไม่ได้ มีผลกระทบกับการเรียน แต่ก็มีครอบครัวและน้องที่จะต้องดูแล ทำให้ต้องเข้มแข็งและผ่านเรื่องเลวร้ายไปให้ได้ ดีกว่าจะมาโกรธแค้นกัน รวมถึงคู่กรณีก็ดูแลเป็นอย่างดี และได้รับกำลังใจเป็นอย่างดีกับทุกคน หลังจากนี้จะตั้งใจเรียน เพราะมีความฝันอยากเป็นหมอจะได้รักษาคน

logoline