เซ็นทรัลรีเทลเตรียมพร้อมเข้าตลาดหุ้น

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยจะนำธุรกิจค้าปลีกต่างๆของเซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คือธุรกิจในเวียดนาม และอิตาลีให้เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเดียวกันโดยคาดว่าจะสามารถยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้ภายในปีนี้เพราะต้องใช้ระยะเวลา 3-6 เดือน ในการเตรียมตัวเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์

ทั้งนี้ ขั้นตอนการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้เซ็นทรัล รีเทล จะระดมทุนผ่านการทำ IPO ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบมจ.โรบินสันหรือ ROBINS ที่ถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายอื่นโดยแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของเซ็นทรัล รีเทล ในอัตราแลกหุ้นของ ROBINS กับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของเซ็นทรัลรีเทล คำนวณจากราคาหุ้นของ ROBINS ที่ราคาเสนอซื้อ 66.50 บาทต่อหุ้นหารด้วยราคาหุ้น IPO สุดท้ายของเซ็นทรัล รีเทลและจะไม่มีการชำระค่าตอบแทนในรูปตัวเงิน โดยได้ทำหนังสือแจ้งไปยังบมจ.โรบินสันเรื่องคำเพิกถอนหลักทรัพย์ ROBINS แล้วเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยกำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 5 ก.ย. นี้ เพื่อพิจารณาคำเสนอซื้อดังกล่าว

สำหรับ รายได้รวมของเซ็นทรัล รีเทล ปี2561 อยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท โต 8% โดยทุกปีเซ็นทรัล รีเทล จะลงทุน 4-5หมื่นล้านบาทโดยมองแนวโน้มตลาดค้าปลีกในประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลังยังคงเติบโตได้ดีอยู่ซึ่งภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกประเทศไทยในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราเติบโตมากกว่าจีดีพีประเทศอยู่1.8-2.3% หากปีนี้มีการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเติบโต3.5% อุตสาหกรรมค้าปลีกในประเทศคาดว่าจะเติบโตประมาณ6-7%


นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังถือว่าไปได้ดีอยู่แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จะปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยต่ำกว่าประมาณการณ์เดิมแต่หากดูตัวเลขการอุปโภคและบริโภคพบว่ายังมีอัตราขยายตัวดีอยู่รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทจะเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าใน 5ปีข้างหน้าจะมีนักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่มเป็น 52 ล้านคน จากปี 2561ที่มีนักท่องเที่ยวมาไทย 37 ล้านคน