svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บิ๊กตู่" ตอบแล้ว รัฐประหารปี 57 คิดขึ้นตอนนั้น ฉุน "ส.ส.ฝ่ายค้าน" ทำหน้าเยาะเย้ย

26 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ส.ส.พท." อภิปราย งบกองทัพ-ความมั่นคง ทำอารมณ์ "บิ๊กตู่" ระเบิด ยอมรับ คิด รปห.ปี 57 คิดขึ้นตอนนั้น ฉุน "ส.ส.ฝ่ายค้าน" ทำหน้าเยาะเย้ย ด้าน "ประวิตร" แจงครั้งแรก ไม่เคยคิดคุมการท่องเที่ยว ส่วน "ชัยชาญ" แจงงบจัดซื้ออาวุธ ผ่านการพิจารณารอบด้าน-ไม่โกง-ตรวจสอบได้

ในช่วงบ่ายของการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณานโยบายรัฐบาล ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อรัฐสภา เป็นลำดับของส.ส.พรรคฝ่ายค้าน โดยนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายทักท้วงต่อการจัดสรรงบประมาณให้กับกองทัพเพื่อจัดซื้ออาวุธ และยุทโธปกรณ์ ที่ 5 ปีสมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้งบประมาณรวม 8.9 แสนล้านบาท โดยพบว่างบประมาณของกองทัพบกมีสัดส่วนจำนวนมากที่สุด โดย ในปี 2557 -  2562 พบการจัดสรรงบประมาณให้ทหารเพิ่มมากขึ้น โดยปี 2557 ได้รับงบ 1.8 แสนล้านบาท, ปี 2558 ได้รับงบ 1.9 แสนล้านบาท, ปี 2559 ได้รับงบ 2แสนล้านบาท, ปี 2560 ได้รับงบ 2.1 แสนล้านบาท และปี 2561 ได้รับงบ 1.04 แสนล้านบาท นอกจากนั้นยังพบว่ามีการจัดสรรซื้ออุปกรณ์ที่เกินความต้องการของประเทศที่จะใช้อาวุธ เช่น เรือดำน้ำ  ทั้งนี้ทราบว่ารัฐบาลเตรียมซื้อปืนใหญ่จากประเทศอิสลาเอล เครื่องบินรบจากประเทศเกาหลีใต้  อย่างไรก็ตามมีประชาชนทักท้วงว่าขอให้กองทัพพิจารณาการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อยุทโธปกรณ์ เพื่อนำงบประมาณช่วยเหลือเกษตร และประชาชนที่เดือดร้อน

"บิ๊กตู่" ตอบแล้ว รัฐประหารปี 57 คิดขึ้นตอนนั้น ฉุน "ส.ส.ฝ่ายค้าน"  ทำหน้าเยาะเย้ย


นายวิสาร อภิปรายด้วยว่าตนไม่ต้องการให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำกับดูแลงานด้านการท่องเที่ยว เพราะสมัยที่พล.อ.ประวิตร ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เคยให้สัมภาษณ์ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวภายในประเทศ อาทิ เหตุการณ์ก่อจราจลในโรงแรมของคนไทยที่ประเทศเคนยา และ เหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวชาวจีนล่ม ที่จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะกรณีเรือล่มนั้นพบว่าในเดือนที่เกิดเหตุตัวเลขของนักเที่ยวชาวจีนลดลงถึง 5.1 แสนคนและรายได้ด้านการท่องเที่ยวหายไปกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท นอกจากนั้นในประเด็นเรื่องการปกครองและการเมือง ตนอยากแนะนำหนังสือให้อ่าน คือ กองทัพไทยกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่พล.อ.ประยุทธ์ เขียน ทำให้ตนไม่แปลกใจทำไมรัฐบาลชุดที่ผ่านมาต้องออกกฎหมายและมีแนวคิดต่อนักการเมืองที่ไม่ดี และมีกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยพูดว่าเคยเตรียมการรัฐประหาร กว่า 3 ปีก่อนยึดอำนาจเมื่อปี 2557 ทั้งนี้ตนยินดีที่จะสนับสนุนให้การพัฒนาประชาธิปไตยก้าวหน้า แต่การแถลงนโยบายรัฐบาลตนรับไม่ได้ เนื่องจากให้คนเก่าเข้ามาบริหารประเทศ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ลุกใช้สิทธิ์ชี้แจง โดยยืนยันว่าตามที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านบอกถึงการเตรียมการ 3 ปีก่อนการรัฐประหาร ขอให้กลับไปย้อนฟังคำพูดใหม่ เนื่องจากตนบอกว่า สมัยที่ตนเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) 3 ปี เจอสถานการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นพวกไหน ดังนั้นหลังจากนั้นได้เตรียมกำลังพลให้ระมัดระวัง ให้ดูแลประชาชน และก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการ 6 เดือน มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ส่วนการตัดสินใจวันนั้น คือการตัดสินใจในวันนั้นเท่านั้น เพราะมีคนบางกลุ่มบอกว่า ไม่ต้องอยู่ ให้อยู่แบบนี้ งบประมาณไม่ออก ไม่เป็นไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายกฯชี้แจงนั้นเป็นไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด โดยมีบางตอนที่มองไปยังที่นั่งของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ที่นั่งรับฟังและมีสีหน้ายิ้มแย้ม โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งด้วยว่า "พวกคุณไม่ต้องมายิ้ม พวกที่นั่งทางนี้ ไม่รู้สึกรู้สา คนตายไปเท่าไรแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นต้องรับผิดชอบกันหรือไม่ ตอบมา อย่าทำหน้าเยาะเย้ยผม ผมไม่ชอบ" ก่อนปิดไมโครโฟนและนั่งลง 

"บิ๊กตู่" ตอบแล้ว รัฐประหารปี 57 คิดขึ้นตอนนั้น ฉุน "ส.ส.ฝ่ายค้าน"  ทำหน้าเยาะเย้ย


ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ใช้สิทธิ์ชี้แจงครั้งแรกในการประชุมรัฐสภา ถึงงบประมาณจัดซื้อจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพ โดยยอมรับในการอภิปรายของส.ส. ว่าเป็นความจริง แต่การจัดซื้อดังกล่าวของกระทรวงกลาโหมเป็นแบ่ง 4 ส่วน ที่เกี่ยวเนืองกับแผนจัดหายุทธศาสตร์ และ อาวุธ เนื่องจากยุทโธปกรณ์ที่ใช้อยู่มีอายุกว่า 20 - 30 ปี ดังนั้นต้องเปลี่ยน ซึ่งรายละเอียดของการใช้งบประมาณ ขอให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจง
พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า ขณะที่ประเด็นเรื่องเรือ และอาหาร ตนพูดเล่นกับผู้สื่อข่าว และเขานำไปเขียน ส่วนกรณีเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวชาวจีนล่มนั้น  เป็นสิ่งที่ตนพูดจริง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต ทั้งนี้ได้ชี้แจงกับคนจีนไปมหดแล้ว ว่าไม่ได้หมายความตามที่เข้าใจ ขณะที่การกำกับหน่วยงานการท่องเที่ยวหลังจากนี้ตนไม่เคยคุม  
ต่อด้วยการชี้แจงของ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า โดยยืนยันว่าการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ กองกองทัพนั้นไม่สูงเกินไป โดยปี 2540 มีอัตราเฉลี่ย 2.2 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี และมีการปรับลดลงทุกปี และในปีล่าสุดมีอัตราอยู่ที่ 1.2 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี ทั้งนี้การพิจารณาจัดซื้ออาวุธนั้นของกองทัพนั้นมีอัตราต่ำ หากเปรียบเทียบ เงิน 100 บาท  จำนวน 47-48 บาทใช้เรื่องกำลังพล , จำนวน 23 บาท เป็นการปฏิบัติภารกิจทั่วไปและตามที่ได้รับมอบหมาย และอีกส่วน 19 บาท คือการพัฒนากองทัพ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ขณะเดียวกันกองทัพมีอาวุธที่ผ่านการใช้งานและต้องซื้อทดแทน ซึ่งการจัดซื้อนั้นมีกระบวนการพิจารณา ผ่านคณะกรรมการ ทั้งพิจารณาตามแผน ยุทธศาสตร์ และประเมินภัยคุกคาม โดยตนยืนยันว่าการอนุมัติงบจัดซื้อนั้นโปร่งใส และตรวจสอบได้

logoline