"บิ๊กตู่" ลุกแจงตอนดึก พร้อมรับคำวินิจฉัย ศาลรธน. ปมคุณสมบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมรัฐสภาเพื่อให้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ช่วงการอภิปรายของนายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นไปอย่างวุ่นวายเนื่องจากได้อภิปรายต่อคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญระบุว่าถือเป็นลักษณะที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ พร้อมยกคำพิพากษาของศาลฎีกา ประกอบ ทำให้ส.ส.พรรคพลังประชารัฐหลายคนลุกประท้วงการอภิปรายดังกล่าว
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ฐานะประธานที่ประชุม ได้วินิจฉัยหลายครั้งให้นายวัน อภิปรายเฉพาะนโยบายและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง โดยร้องขอไม่ให้อภิปรายเรื่องที่อยู่ในกระบวนการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การอภิปรายเป็นไปโดยราบรื่นและไม่มีการประท้วงที่ทำให้เสียเวลาอภิปราย ซึ่งนายวันได้อภิปรายประเด็นคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่เหมาะสมต่อการเป็นผู้นำประเทศ
จากนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่กำกับดูแลงานด้านกฎหมาย ชี้แจงว่า ในวันที่ 25 กรกฏาคม รัฐบาลได้ยื่นคำให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญตามที่ส.ส. จำนวน 110 คน ยื่นคำร้องให้วินิจฉันว่าด้วยคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตามกรณีที่อ้างคำพิพากษาของศาลฏีกาเกี่ยวกับคุณสมบัติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือหัวหน้าคสช. ว่าเป็นพนักงานของรัฐ มีความคลาดเคลื่อนที่ต้องชี้แจงว่าในรายละเอียดของคำพิพากษาที่กล่าวอ้างนั้นไม่มีถ้อยคำใดที่ระบุถึงความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีเพียงคำว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งรายละเอียดของคดีที่ยกกล่าวอ้างระบุว่าจำเลยขัดคำสั่งเจ้าพนักงานรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 ว่าผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานมีความผิดลหุโทษ
"ผมยืนยันว่าคำว่าเจ้าพนักงานรัฐเป็นคนละความหมายกับ เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเคยมีคำพิพากษาศาลฏีกา ปี 2554 กรณีเจ้าอาวาส ฐานะเจ้าหน้าที่รัฐยักยอกทรัพย์ ซึ่งคดีสู้กันที่ว่าเจ้าอาวาสไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ จึงไม่ควรเป็นพนักงานของรัฐ ทั้งนี้คำพิพากษาระบุว่า เจ้าอาวาสถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามกฎหมายคณะสงฆ์ แต่ไม่ใช่พนักงานของรัฐตามกฎหมายอื่น ทั้งนี้ผมยืนยันว่าตามคำพิพากษาไม่ม่ีที่ใด ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมายอื่นหรือไม่ เป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้พิจารณา" นายวิษณุชี้แจง
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตนเคารพในกระบวนการยุติธรรม เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนพร้อมรับคำตัดสินทุกประการของศาล ทั้งนี้มีคดีเดียวกันที่เกิดขึ้นกับหลายคนขอให้ยอมรับ และตนจะยอมรับตามคำตัดสินของศาล.