"ดร.กิตติธัช" ฉุน! ฟังแถลงนโยบายรัฐบาลมาหลาย ชม. ก็มีที่เป็นสาระบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะไร้สาระ

การอภิปรายนโยบายรัฐบาล ยังเดินหน้าไปอย่างเข้มข้นกว่า 6 ชั่วโมงแล้ว โดยฝ่ายค้าน ยังคงสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นทำหน้าที่โต้แย้งนโยบายของรัฐบาล อย่างต่อเนื่อง ตามสัดส่วนเวลาที่ได้รับการจัดสรร ซึ่งฝ่ายค้านได้อภิปรายไปแล้วจำนวน 4 คน โดยส่วนใหญ่โจมตีว่า เป็นนโยบายที่เลื่อนลอย อย่าง ส.ส. น่าน พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่ลุกขึ้นอภิปรายท่ามกลางทุกสายตาจับจ้อง เพราะเป็นดาวสภาฯ

ซึ่งอภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลทำนโยบายแบบซ่อนเร้น ปิดบังรัฐสภา เนื่องจากขาดเป้าหมายและความสำเร็จที่ชัดเจน โดยในนโยบายหลัก 12 ด้านและนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง ก็ไม่พบเป้าหมายความสำเร็จ ซึ่งมองว่าเป็นการเขียนนโยบายที่ขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน และเป็นการเขียนนโยบายที่ถูกวิจารณ์ว่า ย้อนยุค เหมือนหน้าไม้ยิงดิน นอกจากนี้ ยังเห็นว่า การเขียนนโยบายดังกล่าวอาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่ว่าด้วยหลักธรรมาภิบาล การบริหารบ้านเมืองที่ดี ซึ่งต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมถึงประชาชนมีส่วนร่วม

นพ.ชลน่าน ยังตั้งข้อสังเกตุว่า รัฐบาลไม่เขียนเป้าหมายความสำเร็จ ทำให้ฝ่ายค้านตรวจสอบความสำเร็จได้ลำบาก รวมถึงยังไม่เขียนงบประมาณที่จะทำ ซึ่งทำให้สงสัยว่า จะนำงบประมาณจากไหน เพื่อนำมาใช้ในนโยบายต่างๆ นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังพูดถึงการแต่งตั้งบุคคลที่อาจจะขัดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่ง คือ นายอุตตม ที่มีคดีที่เกี่ยวกับการปล่อยกู้เงินของธนาคารกรุงไทยให้เครือกฤษดามหานคร โดยนพ.ชลน่าน มองว่า กรณีดังกล่าวพบว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดียกเว้นนายอุตตม ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจจะเกี่ยวกับการให้การเท็จต่อศาลหรือไม่

และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ถูกจับตาคือ การชี้แจงเรื่องคดีปล่อยกู้กรุงไทย ของรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อุตตม สาวนายน ซึ่งนายอุตตม ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ที่ผ่านมามีหลายคนพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีความพยายามบิดเบือนหลายครั้ง ที่ต้องการเชื่อมโยงกับคุณสมบัติของรัฐมนตรี ซึ่งส่วนตัวขอย้ำว่า พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะถ้าไม่ผิดตั้งแต่แรก แล้วจะให้ผิดได้อย่างไร ขณะเดียวกัน ยังย้ำว่า คดีกรุงไทย มีการไต่สวนมาแล้ว ส่วนรายละเอียดขอชี้แจงในช่วงต่อไป

ล่าสุดดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ อาจารย์และนักวิชาการด้านสถาปัตยกรรม ปรัชญาการเมืองและศาสนา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โพสต์เฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith เกี่ยวกับการแถลงนโยบายรัฐบาลดังกล่าว โดยระบุว่า...

#การอภิปรายนโยบายรัฐบาล
#ในแบบที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
- คือการพูดถึงนโยบายต่างๆ ว่ามีจุดแข็ง-จุดอ่อนตรงไหนบ้าง ตรงไหนที่ยังขาดตกบกพร่อง ตรงไหนที่ควรเสริมเพิ่มเติม
- ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลควรจะใส่ใจกับประเด็นนี้ เพราะนี่คือสาระหลักของการอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล
เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ
-------------------------
- แต่จากที่ฟังมาหลาย ชม. ก็มีที่เป็นสาระบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะไร้สาระ โดยเฉพาะฝ่ายค้านที่มานั่งเหน็บแนมนั่งเถียงกันเรื่องอ่านช้า อ่านเร็ว อ่านจากเอกสาร บลาๆๆ
- และกองเชียร์แต่ละฝ่ายก็โดนปั่นให้สนใจเรื่องไร้สาระเหล่านี้กัน แต่ดันไม่มีใครสนใจเนื้อหาสาระในนโยบายหรือนำเสนอเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งสักเท่าไร...
- ดูเหมือนประเทศไทยในเวลานี้ ยังห่างไกลจาก #คุณภาพการเมืองที่ดี ที่ควรจะเป็นมากนัก เพราะเรามัวแต่สนใจเรื่องประชาธิปไตย-เผด็จการ ซ้าย-ขวา แล้วก็ชอบเหน็บกันไปมา
- เน้นโชว์ลีลาโวาหารแบบนักโต้วาทีโบราณๆ แทนที่จะสนใจสาระที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าการกระทำเปลือกๆ เหล่านี้...