svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

การบินไทยชี้โทษสูงสุด "ไล่ออก" สจ๊วตบินไทยฉาว

25 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การบินไทยแจงรู้ตัวสจ๊วตที่ลักลอบนำบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากเข้าประเทศแล้ว โดยอยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินการลงโทษตามระเบียบต่อไป ชี้โทษสูงสุดคือไล่ออก

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอื้อฉาวอย่างกว้างขวางในหมู่พนักงานต้อนรับสายการบินไทย เนื่องจากในโลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในกรุ๊ปไลน์ของพนักงานได้มีการพูดถึงกรณีที่มีสจ๊วตของการบินไทยรายหนึ่ง ลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าและตัวบุหรี่จำนวน จำนวนอย่างละ 100 ชิ้นจากเมืองโนริตะ ประเทศญี่ปุ่น มากับเที่ยวบิน ทีจี 677


โดยต้นเรื่องมาจากมีผู้โดยสารภาคพื้นดินที่อยู่ในอาคารสนามบินโนริตะ สังเกตเห็นสจ๊วตคนดัง กล่าวขนบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่เข้าไปในเครื่องบิน เที่ยวบิน ทีจี 677 ที่จะเดินทางมายังประเทศไทย ในวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จากนั้นจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรของญี่ปุ่นให้ทราบเรื่อง โดยที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรของญีปุ่น ได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ศุลกากรของไทยในเวลาเดียวกัน เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าที่สจ๊วตกำลังขนเข้าประเทศถือว่าเป็นสิ่งผิดหมาย ที่ลูกเรือไม่สามารถซื้อบุหรี่หรือไส้บุหรี่ไฟฟ้าได้เป็นจำนวนมากขนาดนี้

การบินไทยชี้โทษสูงสุด "ไล่ออก" สจ๊วตบินไทยฉาว




กระทั่งเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 21.30 น. วันที่ 20 กรกฎาคม หลังจากผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดลงจากเครื่องแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรจากสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินการเข้าไปตรวจค้นที่รถโดยสารลูกเรือการบินไทย โดยเจ้าหน้าที่พบเพียงกระเป๋าขนาดใหญ่วางอยู่บนเก้าอี้นั่งบนรถ แต่ไม่พบตัวสจ๊วตคนที่ขนบุหรี่ไฟฟ้ามา เมื่อตรวจค้นของภายในกระเป๋าดังกล่าวพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 100 ชิ้น และไส้บุหรี่อีก 100 ชิ้น รวมมูลค่า 300,000 บาท แต่ถ้านำมาขายในประเทศไทย จะราค่าเพิ่มเป็น 2 เท่า คือ 600,000 บาท จึงทำได้เพียงยึดของกลางไว้ ส่วนสจ๊วตที่ลักลอบขนสิ่งกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักรทราบข้อมูลว่า เดินทางออกจากสนามบินตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่งผลให้พนักงานขับรถโดยสารลูกเรือคันดังกล่าวต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบแทน


สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ของบรรดาพนักงานงานสายการบินนั้น พยายามเรียกร้องความเป็นธรรม นำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ไม่ปล่อยให้ลอยนวล และไม่ผลักภาระความรับผิดชอบไปให้คนอื่น ตลอดจนต้องการรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร


การบินไทยชี้โทษสูงสุด "ไล่ออก" สจ๊วตบินไทยฉาว




โดยเรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในไลน์กรุ๊ปของพนักงานตอนรับการบินไทย อาทิ "มีใครทราบข่าวเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า lot ใหญ่ที มีลูกเรือนำเข้ามา flt 677 แล้วโดนศุลกากรจับได้ ไหมคะ" , "ช่างกล้าเนอะ อย่างนี้ผู้บริหารควรจะลง มาทำอะไรสัก อย่าง เชือดไก่ให้ลิง ดูเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่คิดอยากจะทำ ได้ข่าวว่าเป็นล็อตใหญ่มาก" , "คนทำผิด พาให้คนอื่นเดือดร้อน นโยบายเหวี่ยงแห" ฯลฯ


ขณะเดียวกันยังมีสจ๊วตนายหนึ่งได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ด้วยในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมกับแท็กไปถึงเฟซบุ๊ก "TG info by TG crew" ว่า จากเคส case บุหรี่ไฟฟ้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ห้ามให้คนขับรถยกกระเป๋าให้ลูกเรือทุกกรณี สัมภาระทุกชิ้นของลูกเรือจะต้องดูแลเองตาม PSM ก่อนจะมีคนเข้ามาคอมเม้นท์ จากนั้นไม่นานโพสต์นี้ก็ถูกลบทิ้งไป แต่ยังมีโพสต์อื่น ๆ ที่กล่าวถึงเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าเชิงตั้งคำถามว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในไทย รวมทั้งความแตกต่างระหว่างสินค้าหนีภาษี กับ สินค้าที่ผิดกฎหมาย


นอกจากนี้ยังมีแอร์โฮสเตสการบินไทยรายหนึ่ง ให้รายละเอียดกับ "คมชัดลึกว่า" คนในองค์กรพูดถึงเรื่องนี้เยอะมาก และมีข้อมูลหลายกระแส โดยยังไม่แน่ชัดว่าสจ๊วตที่ลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้ามาชื่ออะไร ต่างก็บอกว่าทำไมถึงกล้าทำ เชื่อว่าทางผู้บริหารน่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งก็เป็นปกติเวลามีพนักงานกระทำผิด โดยโทษอาจถึงขั้นไล่ออก และยังไม่รู้ว่าการเอาผิดตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ศุลกากรดำเนินการไปถึงไหนแล้ว


การบินไทยชี้โทษสูงสุด "ไล่ออก" สจ๊วตบินไทยฉาว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเปิดเผย ตารางบินของสจ๊วตรายดังกล่าว พบว่าไฟลท์บินไปแต่ประเทศญี่ปุ่น

การบินไทยชี้โทษสูงสุด "ไล่ออก" สจ๊วตบินไทยฉาว

.

การบินไทยชี้โทษสูงสุด "ไล่ออก" สจ๊วตบินไทยฉาว




ล่าสุด ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน บมจ.การบินไทยสุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ ระบุกรณีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชายลักลอบนำบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากเข้ามาประเทศไทย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 การบินไทยได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชายคนหนึ่งของเที่ยวบินเที่ยวบินที่ ทีจี 677 เส้นทางนาริตะ-กรุงเทพฯ ซื้อบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากอย่างผิดสังเกตที่ร้านค้าปลอดภาษีในท่าอากาศยานนาริตะ


การบินไทยชี้โทษสูงสุด "ไล่ออก" สจ๊วตบินไทยฉาว




จึงได้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรเพื่อเตรียมการตรวจจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เอ็กซเรย์ตรวจค้นพนักงานต้อนรับฯ เที่ยวบินดังกล่าวทุกคนและไม่พบว่ามีบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด แต่พบกระเป๋าที่วางไว้ข้างคนขับรถขนส่งพนักงานจากลานจอดเครื่องบินกลับมายังอาคารศูนย์ปฏิบัติการการบินไทยที่สุวรรณภูมิ ซึ่งภายในกระเป๋ามีบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าบรรจุอยู่จำนวนมากโดยไม่มีพนักงานต้อนรับฯ คนใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ
ขณะนี้ การบินไทยรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งจะลงโทษตามระเบียบบริษัทฯ ต่อไป โดยมีโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก


การบินไทยยืนยันว่า บริษัทฯ มีมาตรการป้องปรามไม่ให้พนักงานต้อนรับฯ กระทำผิด ทั้งการฝึกอบรมและย้ำเตือนอย่างสม่ำเสมอให้พนักงานรับทราบถึงโทษที่จะได้รับเมื่อกระทำความผิด ให้หัวหน้างานสอดส่องดูแลอย่างเข้มงวด และให้ความร่วมมือกับศุลกากรโดยการแจ้งเบาะแสรวมทั้งทำการสุ่มตรวจค้นเมื่อพนักงานต้อนรับฯ เดินทางถึงประเทศไทย

logoline