ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ผลกระทบจากภัยแล้งนอกฤดูกาลในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตข้าวนาปีเป็นหลักซึ่งจะทำให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น0.1% ของ GDP ซึ่งเป็นการประเมินความเสียหายของข้าวนาปีเป็นหลัก โดยเป็นการประเมินในเบื้องต้นซึ่งหากรวมผลเสียหายของพืชเกษตรอื่น อาจทำให้มีมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่าที่ประเมินไว้
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์ภัยแล้งนอกฤดูกาลที่อาจลากยาวได้อีกในช่วงเดือนสิงหาคม-ธันวาคม2562 ที่อาจกระทบต่อปริมาณผลผลิตข้าวนาปีที่จะออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งอาจส่งผลต่อมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก
รวมทั้งต้องจับตาสถานการณ์ภัยแล้งที่ลากยาวเช่นนี้ อันจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนซึ่งจะใช้เป็นน้ำเพื่อทำการเกษตรในฤดูแล้งถัดไปในปี 2563 หรือเดือนพฤศจิกายน2562-เมษายน 2563 โดยจะกระทบต่อพืชเกษตรหลักที่มีฤดูกาลเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูแล้งที่สำคัญคือ ข้าวนาปรัง มันสำปะหลัง และอ้อย ก็จะยิ่งทำให้ตัวเลขมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจมีความเสียหายต่อเนื่องไปจนถึงปี2563 และกระทบรายได้เกษตรกรให้ยังคงลำบากต่อเนื่องไปอีก
รวมถึงในระดับภูมิภาค จะยังส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในพื้นที่ และจะยิ่งเป็นการฉุดกำลังซื้อครัวเรือนภาคเกษตรการมีงานทำ รวมทั้งปัญหาในภาคธุรกิจ SMEs