นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ไปหารือกับนักลงทุนจีนด้วย เพื่อดึงดูดการลงทุนในจีนเข้าไปยังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่นักลงทุนบางส่วนได้เริ่มย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังประเทศอื่น เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่มีการขึ้นภาษีสินค้าระหว่างกัน หากไทยสามารถดึงนักลงทุนกลุ่มนี้ให้ย้ายฐานการผลิตมาได้ ก็จะเป็นประโยชน์กับไทย
ทั้งนี้ นอกจากการดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่นและจีนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นแผนเร่งด่วนที่ได้สั่งการไปยังปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำแผนกำหนดการพบปะนักธุรกิจให้มีความชัดเจนในสัปดาห์หน้าแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมจะพบปะกับนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อชักจูงให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยจะหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อรับฟังความคิดเห็นและปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ พร้อมทำงานแบบบูรณาการร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เพื่อทบทวนสิทธิประโยชน์ในการลงทุนเพิ่มเติม พร้อมกระตุ้นให้เกิดการลงทุนภาคอุตสาหกรรม เกิดการจ้างแรงงานที่มีทักษะและได้รับประโยชน์จากการถ่ายทอดองค์ความรู้
ส่วนการส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรมจะหารือกับกระทรวงคมนาคม เพื่อเปิดทางให้สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ โครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยเชื่อว่าหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้มากขึ้น