นายวิจารณ์ กล่าวว่าเมื่อประมาณปี 2545 น.ส.อรอุมา ลูกสาวได้ข้าศึกษาระดับมัธยม ปีที่ 1- 6 ที่ร.ร.ศรีคูณวิทยะบัลลังค์ ต. จานลาน อ. พนา น.ส.อรอุมาได้กู้ยืมเงินกองทุนเพื่อการศึกษาตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนั้นเป็นเงินจำนวน 40,000 บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน)นายวิจารณ์ กล่าวว่า เมื่อลูกสาวจบ ม. 6 ได้แต่งงานไม่ได้เรียนต่อและไม่ได้ส่งเงินให้กับกองทุนฯ ต่อมา ตนได้รับหมายศาลคดีดำเลขที่ 778/2550 ศาลจังหวัดอำนาจเจริญ วันที่ 9 ต.ค. 2550 กยศ.ยื่นฟ้องศาลๆได้ประนีประนอมยอมความให้ตนและลูกจ่ายเดือนละ 500 บาทมาตั้งแต่ปี 2550 เรื่อยมาตนยอมรับว่าบางเดือนก็ขาดส่ง เนื่องจากตนและลูกสาวไม่มีรายได้ฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำ รวมเงินที่ส่งทั้งหมดตั้งแต่ปี2550-2561 รวม 9 ปีเป็นเงินทั้งสิ้น 13,000 บาท(หนึ่งหมื่นสามพันบาทถ้วน)นายวิจารณ์ เล่าอีกว่า ต่อมาเมื่อเดือน มิ.ย. 2560 ตนได้รับหมายศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี เรื่องการยึดทรัพย์ จากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญ คดีหมายเลขดำที่ 778/2550 ลงวันที่ 27 ต.ค. 2560 ให้ยืดทรัพย์ของจำเลยทั้ง 2 ไว้คือที่ดินโฉนด เลขที่ 14448 เลขที่ดิน 108 หน้าสำรวจ 2558 ต.พระเหลา อ. พนา จ. อำนาจเจริญ
นายวิจารณ์ กล่าวอีกว่า ตนกลัวถูกยึดที่จึงได้ไปติดต่อกับธนาคาร ธกส.สาขาพนาขอกู้ยืมโดยนำที่ดินโฉนด ดังกล่าวไปกู้ยืมจนครบกับจำนวนหนี้ที่ กยศ.ต้องการต่อมาเมื่อวันที่ 19 มิย. 2561 ตนได้เงินสดเงินต้น 40,000 บาทดอกเบี้ย 36,374.14 บาทรวมทั้งสิ้น 76,27414 บาท ไม่รวมกับที่ส่งรายเดือนที่ส่งไปก่อนหน้านั้น เข้าไปพบเจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับคำแนะนำว่าให้นำเงินไปส่งที่ธนาคารกรุงไทย สาขาอำนาจเจริญแล้วให้นำใบเสร็จกลับมาส่งที่บังคับคดีอีกต่อหนึ่ง
นายวิจารณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนั้นตน ลูกสาวและเพื่อนอีก 2 คนไปที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อทราบขั้นตอนในการชำระหนี้ กยศ.โดย จนท.ธนาคารได้รับเงินจากตนส่งเข้า ก.ย.ศ.จนครบจำนวน จากนั้น จ.นท.ธนาคารได้แนะนำให้เขียนลงล่างใบเสร็จมีข้อความว่า"ถึงฝ่ายบริหารชำระหนี้ มีข้อความว่า ขณะนี้ข้าพเจ้าได้ชำระหนี้ ก.ย.ศ.เสร็จสิ้นแล้วขอความกรุณาถอนบังคับคดีให้ด้วย ลงชื่อนายวิจารณ์ ยุวะบุตร ลงวันที่ 19 มิ.ย. 2561
นายวิจารณ์ เล่าอีกว่า จากนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารคนเดิมแนะให้นำใบเสร็จส่งโทรสารไปที่กยศ.ตามหมายเลขที่จนท.แนะนำ จากนั้นตนและลูกสาวและเพื่อนนำใบเสร็จที่ส่งไป ก.ย.ศ.มามอบให้กับ จนท.บังคับคดีคนเดิมตนคิดว่าเรื่องจะจบซึ่งเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ตนและลูกสาวได้เข้าพบ พ.ต.ท.นพดล พินิจอักษร รอง ผกก. สภ. พนา ภวจ. อำนาจเจริญเพื่อเป็นหลักฐานแล้ว
นายวิจารณ์ เล่าอีกว่า ต่อมาตนได้รับหนังสือประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดีสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอำนาจเจริญ เรื่องขายทอดตลาดที่ดินตามสำเนาโฉนด ศาลจังหวัดอำนาจเจริญ คดีหมายเลขแดงที่ 1091/2550 ระหว่างกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา น.ส.อรอุมา ยุวะบุตร จำเลยที่ 1 นายวิจารณ์ ยุวะบุตร จำเลยที่ 2 ในคดีนี้รวม 4 นัด คือวันที่ 1 ส.ค. 2562 นัดที่ 2 วันที่ 22 ส.ค. 2562 นัดที่ 3 วันที่ 12 ก.ย. 2562และนัดที่ 4 วันที่ 3 ต.ค. 2562
นายวิจารณ์ ยังกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า เมื่อตนชำระเงินและได้ทำตาม จนท.บังคับคดีและจนท.ธนาคารแนะนำทุกประการแต่ทำไมเรื่องถึงไม่เสร็จเมื่อที่ได้รับหนังสือเมื่อตนเปิดอ่านทำให้นางประนอม ยุวะบุตร อายุ 58 ปี ภรรยาที่เป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวานอยู่ก่อนถึงกลับเป็นลมล้มซักตนและญาติต้องหามส่งฟื้นที่ รพ.พนา วันที่ตนและลูกสาวและเพื่อนที่ไปด้วยกันวันที่ชำระเงินจะเข้าพบจนท.บังคับคดีที่แนะนำและ จนท.ธนาคารและจะเจ้าร้องทุกข์ต่อ ผวจ. อำนาจเจริญเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป
ผู้สื่อข่าว ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายสมยศ ชาญประเสริฐ ทนาย กยศ.(ผู้แทนโจทก์) สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนายสมยศ กล่าวเพียงว่าให้เจ้าตัวต้องช่วยตัวเองและออกตัวว่าตนถึงจะเป็นตัวแทนโจทก์จริงแต่หากไม่ได้มีหนังสือมอบอำนาจจาก กยศ.เป็นไม่สามารถทำอะไรได้
ผู้สื่อข่าวได้ติดต้อไปที่ กยศ.ได้รับคำตอบว่าขอให้เจ้าตัวส่งหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักมาที่ กยศ.จึงจะสามารถตรวจสอบข้อมูลได้
อำนาจเจริญ - คมข่าวทั่วไทย
โดย - คู่ บุญมาศ