ต้นกล้าตาย หลังฝนทิ้งช่วงนาน

หลังจากฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 2 เดือนตลอดฤดูฝนที่ผ่านมา ทำให้ข้าวกล้าในนาที่ชาวบ้านสาวะถี หมู่ที่ 7 หว่านเพื่อจะใช้ปักดำแห้งตายบางส่วน แต่โชคดีเมื่อคืนมีฝนตกลงมาเล็กน้อย ทำให้ข้าวกล้าได้น้ำและกำลังจะฟื้นตัว โดยข้าวกล้านี้คือพันธุ์ข้าวปลูกที่ชาวบ้านเตรียมไว้ หากกล้านี้แห้งตายหมด ปีนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปเอาต้นกล้าจากไหนมาปักดำค่ะ

เกษตรกรชาวบ้านสาวะถี เมืองขอนแก่น ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้การเตรียมเพาะกล้าพันธุ์พืช การปลูกข้าวนาปี และพืชพันธุ์อื่นๆ ได้รับผลกระทบ เพราะขาดแคลนน้ำเพื่อการเพาะปลูก

นายลำดวน หอมสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านสาวะถี หมู่ 7 บอกว่า ฝนไม่ตกมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แม้ตกก็เล็กน้อยเท่านั้น เกษตรกรต้องขายข้าวเพื่อลงทุนกับการทำนา ทั้งค่ารถไถไถกลบ 2 ครั้ง ค่าพันธุ์ข้าว รถหว่าน หยอดเมล็ดข้าว โดยตัวเองลงทุนกับนา 8 ไร่ 3 งาน ลงทุนไปแล้ว 14,200 บาท และทุกปีหากลงทุนกับการทำนาทั้งหมดจะต้ิงใช้เงินประมาณ 32,000 บาท แต่คาดว่าปีนี้คงจะต้องลงทุนเพิ่มขึ้นอีก
ในขณะที่จังหวัดขอนแก่นทั้งจังหวัด ประสบปัญหาอย่างหนัก เพราะฝนทิ้งช่วง เกษตรกรไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค และใช้ทำการเกษตร จากการตรวจสอบมีจำนวน 12 อำเภอ 24 ตำบล 43 หมู่บ้าน ที่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ประกอบด้วย อำเภอแวงน้อย เมือง หนองสองห้อง ชุมแพ พล แวงใหญ่ บ้านแฮด หนองเรือ บ้านฝาง พระยืน หนองนาคำ และ อำเภอกระนวน ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทานอาศัยน้ำจากธรรมชาติคือ น้ำฝนเท่านั้น
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ได้บินขึ้นไปทำฝนหลวงทุกวัน ประมาณ 65 เที่ยวบิน โดยดูสภาพความชื้นในอากาศด้วย ประสบความสำเร็จในการทำฝนหลวงทำให้มีฝนตกลงมาในพื้นที่เกษตรกรปลูกข้าวเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ทางจังหวัดโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดขอนแก่น ได้รวบรวมปัญหาผู้ประสบภัยแล้งไม่มีน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบกับฝนทิ้งช่วงนี้ด้วย
ซึ่งทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนคาดการณ์ได้ว่า ระหว่างวันที่ 23-26 ก.ค. 62 นี้จะมีฝนตกหนักในบริเวณพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเกษตรกรกำลังเฝ้ารอคอยน้ำฝนค่ะ
และนี่คือสภาพปัญหาฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง ที่เกษตรกรได้รับ และด้านหลังของดิฉันนี้คือลำห้วยใหญ่ที่มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร แต่วันนี้ตลอดลำน้ำไม่มีน้ำเลยค่ะ