ความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็คือ ผู้ที่ออกมาเปิดโปงขบวนการยัดข้อหาแรงงานต่างด้าว เป็นตำรวจด้วยกันเอง"เป็นปาก...เป็นเสียง" ได้รับข้อมูลจากนายตำรวจระดับรองสารวัตรสืบสวน สน.บางเขน ว่า เขาได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายจ้างโรงงานชำแหละไก่รายใหญ่ และผู้ประกอบการบริษัทรับจ้างทำเอกสารให้กับแรงงานต่างด้าว ว่าถูกชายคนหนึ่งล่อลวงว่า สามารถจองบัตรนัดคิวพิสูจน์สัญชาติ และพาไปต่ออายุบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวได้ที่ศูนย์มายองโอทอป จังหวัดระยอง ทั้งสองหลงเชื่อจึงพาแรงงานต่างด้าวจำนวนหลายสิบคนไปต่อบัตรประจำตัว ตามนัด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และตำรวจ จับกุมตัวในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ส่วนตัวผู้ประกอบการก็โดนดำเนินคดีเช่นกัน
แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ถูกคุมขังนานถึง 48 วัน ทั้งที่พวกเขาก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร เนื่องจากผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายและคำสั่ง คสช.ทุกยัง แถมยังมีบัตรประจำตัวสีชมพูติดตัวแรงงานต่างด้าวทุกคนด้วยปัญหาในคดีนี้ยังไม่จบ เพราะผู้กองเมธาสิทธิ์ ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากนายจ้างอีกว่าว่า ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ไปกักตัวต่อที่โรงพัก พร้อมเรียกรับเงินจากนายจ้างของแรงงานเหล่านี้แลกกับการปล่อยตัว
ขณะที่เจ้าของโรงงานชำแหละไก่สดรายใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งจ้างงานแรงงานต่างด้าว 25 คน ได้บอกเล่าวิธีการเรียกรับแบบนิ่มๆ ของตำรวจนอกแถวรายนี้ขณะที่รองสารวัตรสืบสวน สน.บางเขน บอกถึงเหตุผลที่ต้องออกมาแฉพฤติกรรมนอกลู่นอกทางของเพื่อนร่วมอาชีพ โดยบอกว่า เรื่องแบบนี้มีจริงในวงการสีกากี แต่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่คอยติดตามคดีนี้มาเป็นเวลานานนับปี ทนไม่ไหวที่เห็นพี่น้องตำรวจเบียดเบียนประชาชนที่เดือดร้อนเสียเอง