"กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมั่นใจว่าในการนำคณะผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาดปากีสถานเพิ่มมากขึ้นและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถหาลู่ทางในขยายธุรกิจมีโอกาสได้พบปะหารือกับบริษัทที่เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และช่วยผลักดันให้ไทยส่งออกสินค้าเข้าสู่ตลาดปากีสถานได้เพิ่มมากขึ้น"
นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าวว่าตลาดปากีสถานเป็นหนึ่งในตลาดใหม่เป้าหมายที่กรมฯ จะผลักดันเจาะตลาดโดยเฉพาะในเมืองรองเป้าหมาย เช่น การาจี ละฮอร์ อิสลามบัดโดยมีสินค้าเป้าหมาย ได้แก่ สินค้าชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าเกษตร อัญมณีและเครื่องประดับ เส้นใย สิ่งทอและบริการเป้าหมาย ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงพยาบาล และการแพทย์ส่วนภาคการลงทุนเป้าหมาย ได้แก่ การก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมฮาลาล เกษตรแปรรูป ชิ้นส่วนยานยนต์อุปกรณ์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังจะร่วมมือกับปากีสถานในการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจโดยจะร่วมมือกันในสาขาที่แต่ละฝ่ายมีความเชี่ยวชาญโดยในส่วนของไทยมีความเชี่ยวชาญในด้านการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานอุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปการเกษตร อัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งสามารถที่จะร่วมมือกันได้และยังสามารถใช้ปากีสถานเป็นแหล่งวัตถุดิบและแรงงานในอุตสาหกรรมอัญมณี อาหารฮาลาลและเครื่องหนัง เป็นต้น รวมทั้งการผลักดันให้เอกชนไทยเข้าไปลงทุนในปากีสถาน
สำหรับกิจกรรมที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะดำเนินการในตลาดปากีสถานเช่น การจัดคณะผู้แทนสินค้าอุปโภคบริโภคเจรจาการค้าในไทย Sourcing Forum , การจัดงานTop Thai Brands 2019 , การจัดคณะผู้แทน Cluster สินค้าก่อสร้างมาเจรจาการค้าในไทย, การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในไทย จำนวน 10 งาน ,การจัดคณะผู้บริหารระดับสูงเยือนภูมิภาคเอเชียใต้และการจัดคณะผู้บริหารระดับสูงภูมิภาคเอเชียใต้เยือนประเทศไทย เป็นต้น